วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

Utilities 2002 โปรแกรมคู่บารมี PC ไม่มีไม่ได้!

 

ถ้าเป็นมือใหม่หัดเล่นส่วนมากจะนิยมแก้ปัญหาด้วยการยกเครื่องไปให้ร้านซ่อม โดยไม่ได้วิเคราะห์ก่อนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ทั้งๆ ที่ถ้าอาการผิดปกติไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดอุปกรณ์ภายในเครื่อง (Hardware) ชำรุด เราก็สามารถตรวจสอบ และแก้ไขความผิดปกติของเครื่องได้ด้วยตนเอง โดยอาศัยโปรแกรมประเภทหนึ่งที่เรียกกันว่ายูทิลิตี้ (Utilities)

ยูทิลิตี้ คำนี้พูดบ่อย แต่ไม่ค่อยเข้าใจ
โดยเฉพาะมือใหม่หัดใช้คอมพ์ส่วนมาก พอเจอคำศัพท์แปลกๆ ก็มักจะไม่ค่อยใส่ใจใฝ่รู้…ส่วนมากจะใช้วิธีละเอาไว้ในฐานที่ (เกือบ) เข้าใจเอาไว้ก่อน ไม่เชื่อลองถามตัวเองดูสิครับว่า อะไรคือความแตกต่างระหว่าง แอพพลิเคชัน (Application), ยูทิลิตี้ (Utility) และแอ็กเซสซอรี่ (Accessories) ?

เจอคำถามที่ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างจริงจังแบบนี้เข้า ส่วนใหญ่ก็จะตอบแบบกำกวมรวมกำปั้นทุบดินเข้าไว้ก่อน ว่าไอ้เจ้าทั้งหมดทั้งหลายที่ว่ามาก็คือ “โปรแกรม” นั่นเอง

เฮ้อ! ตอบแบบนี้ไม่ผิดหรอกครับ แต่มันตะขิดตะขวงใจ เพราะโปรแกรมทั้งสามประเภทที่ว่ามา ล้วนแต่มีเอกลักษณ์ และลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน มิฉะนั้นฝรั่งเขาคงไม่แบ่งแยกเป็นประเภทให้เมื่อยสมองหรอกขอรับ

แอพพลิเคชัน หรือที่นักภาษาศาสตร์สติเฟื่องบ้านเราให้คำจำกัดความไว้ว่า "โปรแกรมประยุกต์” นั้น หมายถึงซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับงานเฉพาะทาง เช่น พวกโปรแกรมพิมพ์เอกสาร (Word Processing) โปรแกรมกราฟิก เป็นต้น ส่วนแอ็กเซสซอรี่ ก็มีความหมายเฉพาะตัวที่ฟังดูน่ารักน่าชังเหลือเกินว่า “โปรแกรมกระจุ๊กกระจิ๊ก” เช่น พวกเครื่องคิดเลข, โปรแกรมนาฬิกาปลุก หรือโน้ตแพด (Notepad) อะไรทำนองนี้ และสำหรับยูทิลิตี้ ซึ่งถือเป็นพระเอกในดวงใจของผม ก็คือโปรแกรมที่คอยเสริมการทำงาน เพื่อช่วยให้เราจัดการเรื่องวุ่นๆได้สะดวก ง่ายดายมากขึ้น ดังนั้น โปรแกรมไมโครซอฟท์เวิร์ดจึงไม่จัดเป็นยูทิลิตี้ และ WinZip ก็ไม่ใช่แอพพลิเคชัน

ปัจจุบันมียูทิลิตี้อยู่หลายประเภท บางตัวทำหน้าที่คอยดูแลรักษาเครื่องคอมพ์แทนเรา ในขณะที่บางตัวก็ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และอำนวยความสะดวกในการใช้งาน โปรแกรมเพิ่มความเร็วในการท่องอินเทอร์เน็ตต่างๆ นานา นั่นก็ใช่ยูทิลิตี้อีกเหมือนกัน...เอาละสิ มีเยอะแยะจนปวดหัวแบบนี้แล้วจะเลือกตัวไหนมาใช้กันดีหว่า?

ยูทิลิตี้ดาวเด่นในแต่ละด้าน
เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องคอมพิวเตอร์แสนรักของคุณๆ ต้องรกหรือสกปรกไปด้วยยูทิลิตี้จนมากมายเกินความจำเป็น จึงขอถือโอกาสนี้แนะนำโปรแกรมตัวเด็ด ที่บรรดาเกจิเซียนคอมพ์จากทั่วทุกสารทิศต่างยกย่องให้เป็นโปรแกรมที่ควรค่าแก่การติดตั้งเอาไว้เป็นอย่างยิ่ง

Norton Utilities 2002 : อรรถประโยชน์แบบสากกะเบือยันเรือรบ
ยูทิลิตี้ตัวแรก ถือเป็นชุดโปรแกรมสารพัดประโยชน์ที่ควรมีติดเครื่องเอาไว้ เสมือนเป็นตู้ยาสามัญประจำเครื่องคอมพ์ เพราะประกอบไปด้วยยา (โปรแกรม) หลายขนาน ที่จะช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ และเสริมสร้างสมรรถภาพทางความเร็ว (รู้นะ…คิดอะไรอยู่) ให้กับคอมพิวเตอร์แสนรักของคุณๆ ได้อย่างชะงัดนักแล โดยในตัวของ Norton Utilities 2002 นั้นจะประกอบไปด้วยโปรแกรมต่างๆ ดังนี้
  • Speed Disk
    เห็นชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า นี่คือโปรแกรมสำหรับจัดระเบียบสังคม เฮ้ย! จัดระเบียบข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ เหมือนกับ Disk Defragment ที่อยู่ในวินโดวส์นั่นเอง เพียงแต่เจ้าโปรแกรมตัวนี้จะบอกสถานะระหว่างทำงานได้ดีกว่ามาก
  • Norton WinDoctor
    โปรแกรมสำหรับช่วยแก้ปัญหาของวินโดวส์ ซึ่งจะทำงานโดยอัตโนมัติ หากพบความผิดปกติอะไรก็จะรายงานให้ผู้ใช้ทราบ พร้อมทั้งบอกวิธีแก้ไขให้เสร็จสรรพ ยิ่งถ้าใครเป็นมือใหม่ซิงๆ แค่กระดิกนิ้วคลิ้กเมาส์เพียงไม่กี่ครั้ง คุณหมอ Norton คนนี้ ก็จะลงมือแก้ปัญหาแทนคุณให้ทันที
  • Norton Disk Doctor
    เป็นเครื่องมือสำหรับตรวจสอบ และแก้ปัญหาที่เกิดกับแผ่นดิสก์หรือฮาร์ดดิสก์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือโปรแกรม Scandisk ในแบบฉบับของ Norton นั่นเอง ความสามารถของเจ้าโปรแกรม NDD ตัวนี้ก็จัดว่าไม่ธรรมดาเลยขอรับ เพราะสามารถตรวจสอบโครงสร้างของฮาร์ดดิสก์ และทำการซ่อมแซมข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นให้โดยอัตโนมัติ หากเจอปัญหาหนักๆ เหมือนวันมามาก เช่น พื้นผิวของฮาร์ดดิสก์บกพร่อง มันก็จะทำเครื่องหมายเอาไว้ว่าเป็น Bad Cluster เพื่อป้องกันไม่ให้โปรแกรมอื่นๆ เข้ามาใช้งานพื้นที่ส่วนนี้ แหม…แสนรู้จริงๆ
  • Norton System Doctor
    ชื่ออาจละม้ายคล้ายคลึงกับโปรแกรมตัวก่อนหน้า แต่หน้าที่ของเจ้าโปรแกรมตัวนี้จะมีขอบเขตที่กว้างกว่าพอสมควร เนื่องจากต้องทำหน้าที่ตรวจเช็กทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่อยู่ในเครื่องของคุณ เพื่อดูว่ายังมีสุขภาพดีอยู่หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำดีๆ (เป็นภาษาอังกฤษ) เพื่อให้คุณปรับแต่งคอมพิวเตอร์ให้แรงสะใจ เหมือนตอนซื้อเครื่องมาใหม่ๆ อีกด้วย
  • The Norton Protected Recycle Bin
    เป็นเครื่องมือที่ช่วยคุณบริหารและจัดการในส่วนของ Recycle Bin เพิ่มความซับซ้อนของหลักการทำงาน Recyble Bin เดิม อย่างเช่น การจัดเก็บไฟล์ที่มีชื่อเดียวกัน, การอ้างถึงวันที่ในการลบข้อมูลเพื่อกู้ไฟล์เหล่านั้นกลับคืนมา เป็นต้น
  • The UnErase
    โปรแกรมตัวนี้ดูเผินๆ อาจจะคิดว่าทำงานเหมือนกันกับ Recycle Bin ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้มีส่วนคล้ายกันเลย เพราะโปรแกรมตัวนี้จะทำการกู้ไฟล์ที่โดนลบไปจากฮาร์ดดิสก์และ Recycle Bin แล้ว กลับคืนมา โดยมีข้อแม้ว่าเนื้อที่เดิมที่ใช้เก็บไฟล์ดังกล่าว จะต้องยังไม่โดนเขียนข้อมูลใหม่ทับลงไป ในขณะที่ Recycle Bin จะทำการย้ายไฟล์ที่เราสั่งลบ ไปไว้ในโฟล์เดอร์ของตัวเองแทน หน้าจอของ Norton System Doctor รายงานสถานะของเครื่องแบบละเอียดยิบ

  • ซ่อน และแสดงไฟล์ หรือโฟลเดอร์แบบเร่งด่วน

     

    ไฟล์ หรือโฟลเดอร์บางอัน เราอาจจะไม่ต้องการให้ใครเห็น ดังนั้น เราคงต้องรีบหาซอฟต์แวร์เพื่อมาช่วยซ่อนไฟล์ และโฟลเดอร์ที่เราต้องการ

    ไฟล์ หรือโฟลเดอร์บางอัน เราอาจจะไม่ต้องการให้ใครเห็น ดังนั้น เราคงต้องรีบหาซอฟต์แวร์เพื่อมาช่วยซ่อนไฟล์ และโฟลเดอร์ที่เราต้องการ ซึ่งบางครั้งที่เราต้องการซ่อนไฟล์ หรือโฟลเดอร์แบบทันที อาจจะไม่ค่อยสะดวกนักที่จะต้องมาหาซอฟต์แวร์ และติดตั้งลงไป ซึ่งใน Windows XP ก็มีวิธีการซ่อนไฟล์ หรือโฟลเดอร์มาให้ด้วย รับรองว่าทำได้รวดเร็ว และยังสะดวกอีก สำหรับวิธีการก็ง่ายๆ รวมถึงยังสามารถซ่อนไฟล์พร้อมๆ กันหลายๆ ไฟล์ได้ด้วย ทำได้ขนาดนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าทำอย่างไรกันบ้าง
    1. เลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ไม่อยากให้แสดง คลิ้กเมาส์ด้านขวา แล้วเลือกที่ Properties จะปรากฏหน้าต่าง Properties ขึ้นมาในนั้นจะมีรายละเอียดต่างๆ ของไฟล์ ขนาดไฟล์ วันที่ และการเรียกใช้ไฟล์ (รูปที่ 1)

    รูปที่ 1

    รูปที่ 2

    2. มองดูที่ด้านล่างสุดของหน้าต่าง Properties จะพบกับส่วนของ Attributes ซึ่งจะมีตัวเลือกให้ 3 ตัวด้วยกันคือ Read-only , Hidden และ Archive สังเกตว่าถ้าเราคลิ้กที่ตัวเลือกไหน ก็จะมีเครื่องหมายถูก (รูปที่ 2)

    รูปที่ 4

    รูปที่ 3

    3. ให้เราคลิ้กเลือกที่คำว่า Hidden ซึ่งจะเป็นการสั่งให้ไม่แสดงไฟล์นั้น ถึงขั้นตอนนี้ก็ลองคลิ้กได้เลยค่ะ เมื่อเราดูในโฟลเดอร์อีกครั้งไฟล์นี้จะหายไปทันที และถ้ายังอยู่ให้ลองกด F5 ดูค่ะ จะเป็นการรีเฟรชหน้าจอใหม่ (รูปที่ 3)
    4. สำหรับวิธีนี้จะใช้แบบเดียวกันทั้งกับไฟล์ และโฟลเดอร์นะค่ะ และหากว่าเราต้องการเรียกดูไฟล์ที่เราซ่อนไว้ วิธีการก็ไม่ยากค่ะ ให้เปิดหน้าต่าง Windows Explorer ขึ้นมาก่อน แล้วคลิ้กที่ Tools เลือก Folder Options จะมีหน้าต่าง Folder Options ขึ้นมา ให้เข้าไปในส่วนของ View (รูปที่ 4)
    5. ในส่วนของ View จะมีตัวเลือกต่างๆ มากมายค่ะ ให้สังเกตบรรทัดที่บอกเอาไว้ว่า Hidden files and folder ซึ่งจะมีตัวเลือกใช้ 2 อย่างก็คือ Do not show hidden files and folders หมายถึงจะไม่ให้แสดงไฟล์ที่เราได้ซ่อนเอาไว้ และ Show hidden files and folders ให้แสดงไฟล์ที่ซ่อนเอาไว้ ซึ่งในหน้าต่าง Windows Explorer จะแสดงไฟล์และโฟลเดอร์ที่เราได้ซ่อนไว้ เป็นแบบจางๆ ตรงเมนูนี้เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม (รูปที่ 5)

    รูปที่ 5

    รูปที่ 6

    6. สำหรับผู้อ่านที่ต้องการให้แสดงไฟล์เหมือนเดิม ทำตามขึ้นตอนเดิมเหมือนกับการสั่งให้ซ่อนไฟล์ตอนแรก แต่คราวนี้ให้คลิ้กเอาเครื่องหมายถูกหน้า Hidden ออก แค่นี้ไฟล์ต่างๆ ก็จะออกมาแสดงให้เห็นเหมือนเดิมแล้วค่ะ (รูปที่ 6)

    “ลายมือ” มีสิทธิ์สูญพันธุ์

     

    ความเจริญของโลกทำให้หลายสิ่งหลายอย่างที่เคยเป็นมรดกสำคัญมีโอกาสสูญหายไป นักเขียนคนหนึ่งในอังกฤษเขียนหนังสือชื่อ “Script and Scribble: The Rise & Fall of Handwriting” ทำนายว่าการเขียนด้วยมือกำลังสูญพันธุ์อย่างช้า ๆ

    คิตตี้ เบิร์นส์ ฟลอเรย์ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าว บีบีซี ว่าศิลปะการเขียนหนังสือด้วยมือกำลังเสื่อมไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากคนรุ่นใหม่ใช้ปากกาเขียนหนังสือเองน้อยลงเพราะมีการใช้ระบบสื่อสารสมัยใหม่ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือกันอย่างแพร่หลายทั่วโลกและมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยตลอด ทำให้ไม่มีความจำเป็นในการเขียนหนังสือด้วยมืออีกต่อไป

    ฟลอเรย์ระบุว่า การหัดคัดลายมือเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนการสอน ของโรงเรียนในประเทศอังกฤษช่วงศตวรรษที่ผ่านมาและคนอังกฤษก็มีวิธี การเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ เห็นได้จากเรื่องราวในช่วงสงครามครั้งที่สอง เมื่อทหารเยอรมันปลอมตัวเป็นทหารช่างอังกฤษและแอบเข้าประเทศอังกฤษ เพื่อสอดแนมโดยไปตั้งแคมป.ในต่างจังหวัดแต่โดนจับได้เนื่องจากชาวบ้าน เห็นทหารคนหนึ่งเขียนหนังสือไม่เหมือนคนอังกฤษ
    สำนักข่าวบีบีซีสัมภาษณ์ มาร์ก บราวน์ ครูใหญ่ของโรงเรียนเซนต์แมรี่ ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมคาทอลิกที่เมือง Axminster,Devon พบว่าโรงเรียนเอง ก็ได้เปลี่ยนวิธีการสอนจากที่เคยเน้นการคัดลายมือให้สวยงามเป็นระเบียบ มาเป็นการให้ความสำคัญต่อเนื้อหาสาระของการเขียนมากกว่า
    บราวน์ ระบุว่ายังมีการสอนให้เด็กหัดคัดลายมืออยู่และผู้ปกครองส่วนใหญ่อยากให้เป็นแบบเดียวกับสมัยของตัวเองแต่โรงเรียนก็ได้เปลี่ยนการให้ความ สำคัญ ซึ่งทำให้เด็กเขียนเนื้อหาได้ดีขึ้นแต่ลายมือแย่ลงเมื่อเทียบกับคนสมัยก่อน
    ฟลอเรย์ระบุว่า ความสำคัญของการเขียนและอ่านลายมือจะลดลงไปเรื่อยๆ ยกเว้นในวงการแพทย์เนื่องจากนายแพทย์ส่วนใหญ่ยังนิยมเขียน ด้วยมือในการวิเคราะห์โรค และใบสั่งยาแต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าลายมือของพวก หมออ่านยากที่สุดในโลกและบางครั้งก็เป็นต้นเหตุของการรักษาผิดพลาด
    ประเทศไทยเองก็เป็นปัญหาอยู่เห็นได้จากข่าวเมื่อเร็วๆนี้ที่มีการขลิบอวัยวะเพศเด็กชายทั้งที่เด็กไปที่คลินิกเพื่อผ่าตัดฝีในปาก
    สิ่งที่เชื่อกันว่าจะเป็นสาเหตุที่เร่งให้การเขียนด้วยมือและลายมือสูญพันธุ์เร็วยิ่ง ขึ้นคือพัฒนาการของโทรศัพท์มือถือซึ่งได้กลายเป็นเครื่องมือสื่อสาร สำหรับคน รุ่นใหม่และล่าสุดมีหนังสือขายดีในญี่ปุ่นเล่มหนึ่งชื่อ “ประสบการณ์ครั้งแรก” ของนักเรียนมัธยมญี่ปุ่นอายุ 22 ปีใช้นามปากกาว่า ยูมี-โฮตารุ ซึ่งแปลว่า หิ่งห้อยฝันเฟื่อง หนังสือเล่มนี้อาจจะเป็นหนังสือขายดีเล่มแรกของโลกที่เขียน ด้วยการกดปุ่ม
    สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่านายหิ่งห้อยฝันเฟื่องเขียนหนังสือทั้งเล่มบน โทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในสังคมคนรุ่นใหม่ชาวญี่ปุ่นโดยเขียน เรื่องที่ละบรรทัดบนโทรศัพท์มือถือและส่งไปที่เว็บไซต์ที่มีอยู่หลายแห่งในญี่ปุ่น
    ความนิยมของนิยาย “ประสบการณ์ครั้งแรก” ทำให้สำนักพิมพ์ชื่อดังติดต่อนาย หิ่งห้อยฝันเฟื่อง เพื่อขอลิขสิทธิ์ไปตีพิมพ์และกลายเป็นหนังสือขายดีไปด้วย
    ชาวญี่ปุ่นเรียกนิยายบนโทรศัพท์มือถือนี้ว่า ไคไต โชเซ็ทสุ หรือบทประพันธ์บน โทรศัพท์มือถือเป็นวัฒนธรรมใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา นักเขียนส่วน ใหญ่เป็นวัยรุ่นหญิงและชายซึ่งเขียนเรื่องต่างๆ
    รวมทั้งประสบการณ์ตัวเอง บางเรื่องเป็นสิ่งที่ต้องปิดบังอำพราง อาทิ เรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ การเสพยา การทำแท้ง เขียนบนโทรศัพท์มือถือและส่งไปที่เว็บไซต์ บทประพันธ์เหล่านี้ สามารถติดตามอ่านได้บนโทรศัพท์มือถือเป็นตอนๆ

    handwritting

    ความก้าวหน้าทางการสื่อสาร และปรากฏการณ์ทั้งหลายเหล่านี้มีส่วนสำคัญให้การเขียนหนังสือด้วยมือหดหายไปจากวัฒนธรรมคนรุ่นใหม่ ทำให้คนกลุ่มหนึ่ง ต้องกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง คนกลุ่มนี้ก็คือผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเขียน
    มีรายงานว่ายอดการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องเขียนยังขยายตัวอยู่แต่ สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเขียนในประเทศอเมริกาและประเทศต่างๆเริ่มไม่ แน่ใจในอนาคตของธุรกิจจึงจัดให้มีโครงการส่งเสริมการเขียนหนังสือขึ้นใน หลายประเทศโดยร่วมกับสมาคมการเขียน อาทิ สมาคมอุปกรณ์เครื่องเขียน ของอเมริกาสนับสนุนการจัดงาน วันแห่งการคัดลายมือขึ้นทุกๆวันที่ 23 มกราคมของทุกปี
    ในประเทศอังกฤษมีการจัดการแข่งขันการคัดลายมือในระดับประถมโดยหน่วย งานในอังกฤษที่มีชื่อว่า Support and Training inPrep Schools (SATIPS) โดยจัดขึ้นทุกปีเช่นกัน ในประเทศจีนและญี่ปุ่นเองก็เขียนตัวหนังสือเป็นศิลปะ ชนิดหนึ่งที่รัฐบาลสนับสนุนอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว

    อย่างไรก็ตามฟลอเรย์เขียนในหนังสือของเธอว่าในอนาคตลายมือของคนจะ เลวร้ายลงไปเป็นลำดับและในที่สุดก็จะกลายเป็นสิ่งอ่านยากเหมือนกับคัมภีร์ โบราณ และเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญเหมือนกับในสมัยก่อนที่การเขียนหนังสือ ต้องอาศัยอาลักษณ์ที่ฝึกมาอย่างเชี่ยวชาญเท่านั้น

    ดาวน์โหลดแบบไม่ยั้ง ด้วย Internet Download Manager

     

    การดาวน์โหลดถือว่าเป็นการใช้งานอย่างหนึ่งที่ใช้กันมากในการเล่นอินเทอร์เน็ต และการดาวน์โหลดให้ได้เร็วที่สุดก็ถือเป็นความต้องการอย่างหนึ่งที่ทุกคนต้องการ โปรแกรมที่ออกมาเพื่อช่วยในการดาวน์โหลดนั้นก็ออกมาหลายโปรแกรมตั้งแต่สมัยแรกๆ ของการใช้อินเทอร์เน็ตอย่าง GetRight หรือ Download Accelerator Plus ก็ตาม ซึ่งทั้ง 2 โปแกรมก็ถือว่าเป็นโปรแกรมที่ดีทั้งคู่ เรียกว่าสามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาและมีประสิทธิภาพอย่างดีเยี่ยมในการดาวน์โหลด
    อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า การพัฒนาก็ไม่มีที่สิ้นสุด เพราะได้มีโปรแกรมน้องใหม่ไฟแรงออกมา ชื่อว่า Internet Download Manager ซึ่งก็มีการให้รางวัลกันอย่างมากมายในอินเทอร์เน็ตว่ามีความสามารถในการใช้งานเพื่อช่วยดาวน์โหลดได้ดีมากอีกโปรแกรมหนึ่ง และมีการวัดแล้วว่า เร็วกว่าโปรแกรมรุ่นพี่อีกต่างหาก อย่างนี้ก็ต้องมาดูกันแล้วว่า Internet Download Manager จะดีอย่างที่ได้ยินมาหรือเปล่า ?
    โปรแกรม Internet Download Manager สามารถหาดาวน์โหลดรุ่นทดลองใช้ได้จาก http://www.internetdownloadmanager.com/ มีขนาด 1.03 เมกะไบต์ เรียกว่าดาวน์โหลดไม่นานก็เสร็จ หลังจากดาวน์โหลดมาแล้วก็ติดตั้ง จากนั้นก็มาลองใช้งานกันเลยครับ

    วิธีการใช้งาน Internet Download Manager
    การใช้ Internet Download Manager เพื่อช่วยในการดาวน์โหลดนั้นทำได้หลายวิธีดังนี้
    วิธีที่ 1 ให้ป้อน URL ไปในโปรแกรมตรงๆ ซึ่งโดยปกติโปรแกรมจะเปิดแล้วจะไปอยู่ที่ซิสเต็มเทรย์อยู่แล้ว ให้คลิ้กขวาที่ไอคอนของโปรแกรมที่ซิสเต็มเทรย์แล้วเลือก Restore ดังรูปที่ 1

    รูปที่ 1

    รูปที่ 2

    จากนั้นโปรแกรมจะขึ้นหน้าต่างขึ้นมา ที่ตรงนี้จะเป็นหน้าหลักของโปรแกรม ให้ไปที่เมนู url - Add new url ดังรูปที่ 2
    จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้พิมพ์ URL ของไฟล์ที่จะดาวน์โหลดลงไป ดังรูปที่ 3

    รูปที่ 3

    วิธีที่ 2 ใช้ drop target

    รูปที่ 4

    drop target จะเป็นที่อยู่ของหน้าต่างเล็กๆ ที่เราสามารถแดร็กลิงก์ของไฟล์ที่จะดาวน์โหลดมาวางไว้บนหน้าต่างนี้ก็จะเป็นการเรียกให้ดาวน์โหลดโดย Internet Download Manager วิธีการเรียก drop target ก็ให้คลิ้กขวาที่ไอคอนของโปรแกรมที่ซิสเต็มเทรย์แล้วเลือก Show drop target ดังรูปที่ 4
    วิธีที่ 3 ให้โปรแกรมเข้าไปคอยตรวจสอบข้อมูลที่ถูกก๊อบปี้ไปเก็บไว้ในคลิ้ปบอร์ด

    รูปที่ 5

    วิธีการนี้โปรแกรมจะไปคอยตรวจสอบข้อมูลที่ถูกก๊อบปี้ไปเก็บไว้ในคลิ้ปบอร์ด แล้วถ้าเป็นลิงก์ไปยังไฟล์ที่จะดาวน์โหลด โปรแกรมก็จะทำการดาวน์โหลดไฟล์ให้ทันที มีขั้นตอนให้ทำดังนี้

  • เปิดโปรแกรมขึ้นมาโดยคลิ้กขวาที่ไอคอนของโปรแกรมที่ซิสเต็มเทรย์แล้วเลือก Restore แล้วไปที่เมนู Downloads - Options คลิ้กที่แท็บ General แล้วคลิ้กเลือก Automatical start downloading of URLs place to clipboard เสร็จแล้วคลิ้ก OK ดังรูปที่ 5
  • ไปที่หน้าเว็บเพจที่มีลิงก์ที่เราจะดาวน์โหลด คลิ้กขวาที่ลิงก์ที่เราต้องการจะดาวน์โหลดแล้วเลือก Copy link (ข้อความอาจไม่เหมือนกันขึ้นกับบราวเซอร์)
    วิธี 4 เข้าไปแทนการดาวน์โหลดไฟล์ผ่านทางบราวเซอร์

    วิธีนี้โปรแกรมจะเข้าไปจัดการดาวน์โหลดไฟล์แทนบราวเซอร์ เพียงคลิ้กเพื่อที่จะดาวน์โหลดตามปกติ Internet Download Manager ก็จะเข้าไปดาวน์โหลดแทนบราวเซอร์ ขั้นตอนให้ทำดังนี้

  • เปิดโปรแกรมขึ้นมาโดยคลิ้กขวาที่ไอคอนของโปรแกรมที่ซิสเต็มเทรย์แล้วเลือก Restore แล้วไปที่เมนู Downloads - Options คลิ้กที่แท็บ General แล้วคลิ้กเลือกที่
    Integrate into Internet explorer ...

    รูปที่ 6

    Integrate into Netscape 4.x
    (ถ้าคุณใช้ Netscape เวอร์ชัน 4)
    Integrate into Netscape 6.x
    (ถ้าคุณใช้ Netscape เวอร์ชัน 6)
    Integrate into Netscape 7.x
    (ถ้าคุณใช้ Netscape เวอร์ชัน 7)
    Integrate into Mozilla
    (ถ้าคุณใช้ Mozilla)
    Integrate into Opera
    (ถ้าคุณใช้ Opera)

  • เสร็จแล้วคลิ้ก OK ดังรูปที่ 6
    ทีนี้ทุกครั้งที่เราคลิ้กที่จะดาวน์โหลดโปรแกรม Internet Download Manager ก็จะเข้ามาจัดการกับการดาวน์โหลดแทนบราวเซอร์
    หลังจากได้ URL ของไฟล์ที่จะดาวน์โหลดแล้ว Internet Download Manager จะถามว่าต้องการการจะเก็บไว้ที่ไหน ซึ่งโปรแกรมจะแยกประเภทของไฟล์ไว้ในโฟลเดอร์ download ใน My Documents เลือกที่เก็บที่ต้องการแล้วกด Start Download เพื่อสั่งให้ดาวน์โหลดทันที ดังรูปที่ 7

    รูปที่ 7

    โปรแกรมจะขึ้นหน้าต่างโปรแกรมที่ใช้ในการดาวน์โหลดไฟล์ขึ้นมา ซึ่งในการดาวน์โหลดนั้นบางครั้งก็จะมีการหลุดบ้าง ดังนั้น การดาวน์โหลดต่อจึงเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่จำเป็นสำหรับการดาวน์โหลด เพราะถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากเริ่มต้นดาวน์โหลดใหม่อีกครั้งหรอก ใช่มั้ยครับ? แต่สำหรับโปรแกรมตัวนี้ เราสามารถทำการดาวน์โหลดต่อได้เลย ซึ่งการดาวน์โหลดต่อนั้น เราสามารถทำการหยุดหรือดาวน์โหลดต่อไปด้วยการกดปุ่ม Pause/ Start ตามลำดับ ดังรูปที่ 8

    รูปที่ 8

  • บันทึกไฟล์ Flash เก็บเอาไว้ง่ายนิดเดียว

     

    ปกติแล้วเวลาที่ไปเจอเว็บเพจที่สร้างด้วย Macromedia Flash แล้วต้องการจะบันทึกไฟล์เอนิเมชัน Flash เก็บเอาไว้จะทำอย่างไรดี...มาดูกัน

     

    ปกติแล้วเวลาที่ไปเจอเว็บเพจที่สร้างด้วย Macromedia Flash แล้วต้องการจะบันทึกไฟล์เอนิเมชัน Flash เก็บเอาไว้จะทำอย่างไรดี...มาดูกัน
    บางท่านอาจบอกว่าก็ไปค้นหาได้จากโฟลเดอร์ Temporary Internet Files ไง โอ๊ย! ไม่ต้องยุ่งยากอะไรขนาดนั้น ติดตั้งโปรแกรม FlashCapture เวอร์ชัน 1.1 สามารถดาวน์โหลดได้จาก http//www.flashcapture.com/download/FLASHCAP.ZIP ด้วยขนาดไฟล์ 670 กิโลไบต์ที่สามารถทดลองใช้งานได้ 30 วัน จากนั้นก็ติดตั้งโปรแกรม FlashCapture แล้วทำตามขั้นตอนดังนี้...

    ขั้นตอนที่ 1
    เปิดหน้าต่างเว็บบราวเซอร์ไออีขึ้นมา แล้วไปยังเว็บไซต์หรือเว็บเพจที่ต้องการบันทึกไฟล์ Flash เอนิเมชัน จากนั้นก็รอโหลดเว็บเพจและเอนิเมชัน Flash ขึ้นมาจนครบถ้วน

    ขั้นตอนที่ 2
    เลือกการบันทึกไฟล์สามารถทำได้ 3 วิธี ได้แก่วิธีที่ 1 บันทึกด้วย Flash Toolbar โดยการนำเมาส์ไปวางเหนือเอนิเมชัน Flash จะแสดงป็อป-อัพทูลบาร์ขึ้นมาให้เลือกบันทึกไฟล์ Flash โดยประกอบไปด้วยไอคอน

    << เลือกไอคอนแรก(จากทางซ้ายไปขวา) เพื่อบันทึกและจัดการเรื่องไฟล์ Flash

    << เลือกไอคอนที่สอง เพื่อส่งไฟล์ Flash ไปให้เพื่อนๆ

    << เลือกไอคอนที่สาม เพื่อจับภาพ Flash, เลือกตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรม FlashCapture)

    ขั้นตอนที่ 3
    การบันทึกวิธีที่ 2 เป็นการบันทึกจาก Flash Context Menu โดยการคลิกเมาส์ขวาลงบนเอนิเมชัน Flash จากนั้นจะแสดงรายการเมนูดังนี้...

  • เลือกรายการ Save Flash As... เพื่อบันทึกและจัดการไฟล์ flash
  • เลือกรายการ Save Flash Into เพื่อบันทึกไฟล์ flash ลงไปในแคตาล็อก
  • เลือกรายการ Send Flash To... เพื่อส่งไฟล์ flash ไปให้เพื่อน
  • เลือกรายการ Snapshot To... เพื่อจับภาพหน้าจอ flash
  • เลือกรายการ Disable/Enable Flash Toolbar ยกเลิกหรือให้แสดง Flash Toolbar
  • เลือกรายการ About FlashCapture...ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรม FlashCapture
  • ขั้นตอนที่ 4
    คลิ้กที่ทูลบาร์ FlashCapture บนหน้าต่างไออี เพื่อ ค้นหาไฟล์ Flash จากแคชขึ้นมาแสดง(คลิกเลือกออปชัน Browse All Cached Items) โดยจะแสดงไฟล์ Flash ที่ใช้แสดงในเพจซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกบันทึกไฟล์ Flash ทุกไฟล์หรือบางไฟล์ก็ได้

    ขั้นตอนที่ 5
    มาทดลองบันทึกไฟล์ Flash กันโดยใช้เมาส์ไปวางลงบนพื้นที่แสดงเอนิเมชัน Flash แล้วไปคลิกปุ่ม

  • วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2552

    Download: ฟรีแวร์ตัดต่อวิดีโอไฮเดฟฯ

     

    เนื่องจากมีคุณผู้อ่านหลายท่านสอบถามทีมงานเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ใช้ตัดต่อวิดีโอไฮเดฟฯ โดยระบุว่า ต้องการที่ใช้ง่าย และเป็นของฟรี ซึ่งถ้าจะว่าไปมันก็มีหลายตัวให้เลือกอยู่เหมือนกัน แต่พอมองไปมองมา ก็เลือกเอาที่ใกล้ตัวมาแนะนำคุณผู้อ่านดีกว่า นั่นก็คือ Windows Live Movie Maker ครับผม

    ผู้ใช้ Windows หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่า ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่มีซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอที่ใช้งานได้อยู่ด้วย นั่นก็คือ Windows Movie Maker แต่สำหรับผู้ใช้ที่ได้มีโอกาสใช้งานแอพฯฟรีตัวนี้ ต่างก็บ่นกันเป็นเสียงเดียวว่า ฟังก์ชันการทำงานของมัน "เบสิค" เหลือเกิน แต่ก็อย่างว่า ของฟรีนี่นา...จะให้ดีเหมือนของซื้อขายได้อย่างไรจริงมั้ย?

    แต่เดี๋ยวก่อน นี่ผมกำลังจะแนะนำให้ใช้ หรือซ้ำเติมให้ช้ำกันแน่ละเนี่ย เรื่องของเรื่องก็คือ Windows Movie Maker นอกจากจะมีข้อจำกัดในเรื่องของฟังก์ชันการตัดต่อแล้ว มันยังมีตัวเลือกสำหรับเอาต์พุทที่ค่อนข้างจำกัดด้วย โดยมีแค่ไฟล์ AVI และ CD เท่านั้น แต่กลับไม่มีตัวเลือกสำหรับทำ DVD? ข่าวดีก็คือ ล่าสุดไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Windows Live Movie Maker ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการทำงานใหม่ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนเอาต์พุท DVD แล้ว มันยังมีฟังก์ชันนำเข้าไฟล์จาก PhotoGallery เพื่อสร้างวิดีโอได้ทันที หรือจะโพสต์คลิปขึ้น YouTube สนับสนุนวิดีโอแบบไฮเดฟฯ (HD Support) ตลอดจนการนำเข้าข้อมูลจากพีซี และกล้องถ่ายวิดีโอที่ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานได้ดีขึ้น รวมถึงทรานสิชั่น และเอฟเฟ็กต์ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นมา แถมยังมีโหมด "Auto Movie" ที่ช่วยให้สร้างสรรค์ผลงานวิดีโอได้ง่ายขึ้น และการแก้ไขข้อมูลเสียง (Audio) เอาเป็นว่า ลองดาวน์โหลดมาใช้ดูก็แล้วกันนะครับ แล้วว่างๆ ทีมงานจะรีวิวรายละเอียดการใช้ให้คุณผู้อ่านได้ติดตามกันอีกทีครับ อ้อ...ลืมบอกประเด็นสำคัญไปเรื่องหนึ่งครับ นั่นคือ Windows Live Movie Maker ใช้ได้กับเฉพาะ Windows Vista และ Windows 7 เท่านั้น...คนใช้ XP เซ็งเลย!!!

    Firefox: เล่น YouTube แล้วติดๆ ขัดๆ

    Firefox 3.5 ส่งผลกระทบให้การโหลดคลิปวิดีโอของ YouTube (รวมถึงเว็บวิดีโอที่อื่นๆ หรือแม้แต่การเปิดทำงานหลายแท็บ) เนื่องจากที่ดีฟอลต์ของการทำงาน Firefox จะมีการเก็บข้อมูล (session) การใช้งานทุกๆ 10 วินาที แล้วมันทำอย่างนั้นทำไมใช่ไหมครับ คำตอบก็คือ ไฟร์ฟอกซ์จะเก็บข้อมูลการใช้งานไว้ เพื่อเรียกคืน (restore) ให้กับผู้ใช้ในกรณีที่มีการล่มการทำงานของบราวเซอร์ ซึ่งลักษณะการทำงานดังกล่าวนี้เองที่ทำให้วิดีโอที่เล่นมีอาการชักกระตุกหยุดชะงัก ทุกๆ 10 วินาที เพื่อรอให้ไฟร์ฟอกซ์ทำภารกิจดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยเสียก่อน (สำหรับเครื่องแรงๆ อาจจะไม่ทันสังเกต) ด้วยความที่มันขยันมากนี่เอง ทำให้ผู้ใช้ Firefox 3.5 หลายคนรู้สึกไม่แฮปปี้เวลาใช้ไฟร์ฟอกซ์ดูคลิปบน YouTube หรือเว็บวิดีโอเจ้าอื่นๆ รวมถึงกรณีที่เปิดหลายๆ แท็บทำงาน ไฟร์ฟอกซ์ก็จะต้องเก็บข้อมูลทุกแท็บว่า มันอยู่ในสภาวะใด ยิ่งมากก็ยิ่งอืด และเป็นบ่อย เพราะมันทำทุกๆ 10 วินาที

    เอาล่ะ สาธยายปัญหามาเสียยาวยืด มาดูวิธีแก้กันดีกว่า ทางแก้ก็คือ ยืดเวลาในการเก็บข้อมูลที่ว่านี้ให้นานขึ้น โดยเข้าไปตั้งค่าเวลาเก็บ session ให้ยาวออกไป ซึ่งขัั้นตอนมีดังนี้

    1. พิมพ์คำสั่ง about:config ในช่อง address ของ Firefox แล้วกด Enter
    2. ในช่อง"ตัวกรอง"(Filter) พิมพ์ browser.sessionstore.interval
    3. ดับเบิ้ลคลิ้กบนรายการดังกล่าว แล้วแก้ค่าเวลา (หน่วยเป็นมิลลิวินาที) จาก 10000 เป็น 300000 หรือเปลี่ยนจาก 10 วินาทีเป็นทุกๆ 5 นาทีแทน หรือมากกว่านี้ก็ได้ ถ้าคุณไม่แคร์เรื่องบราวเซอร์ล่ม

    หลังจากแก้ไขเสร็จแล้ว รีสตาร์ท Firefox ขึ้นมาใหม่ คราวนี้มันก็จะคอยเก็บข้อมูลการใช้งานทุกๆ 5 นาที วิดีโอที่ดู หรืออาการนิ่งๆ จนคิดว่ามันแฮงก์บ่อยๆ ก็จะหายไปแล้วล่ะครับ

    วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

    7 ทิปส์เด็ดๆ ของ Windows 7

     

    เรื่องที่ฮอทที่สุดของไมโครซอฟท์ในเวลานี้ซึ่งจะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่อง ที่จะวางตลาด Windows 7 อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้

    วันนี้เราได้นำ 7 ทิปส์เด็ดๆ ของ Windows 7 มาเรียกน้ำย่อยกันก่อน ไปดูกันเลย

    1. สลับเปลี่ยนไปยังหน้าต่างที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย

    ในกรณีที่ผู้ใช้งานเปิดไฟล์จำนวนหลายๆ ไฟล์จากโปรแกรมเดียวกัน อย่างเช่น โปรแกรมไมโครซอฟท์ เวิร์ด วินโดวส์ 7 จะช่วยให้คุณสับเปลี่ยนระหว่างหน้าต่างได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น เพียงแค่กดปุ่ม Ctrl ในขณะคลิกที่ไอคอนบนทาสก์บาร์ หน้าต่างก็จะเปลี่ยนเป็นหน้าต่างถัดไป โดยคุณสามารถเลือกเปิดหน้าต่างที่คุณต้องการได้

    2. กำหนดขนาดของหน้าต่างตามความต้องการของผู้ใช้งาน

    วินโดวส์ 7 ช่วยให้การจัดการเอกสารและโปรแกรมต่างๆทำได้ง่ายขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถกำหนดขนาดของหน้าต่างได้โดยการเลือกคลิกเมาส์ หรือ ใช้แป้นพิมพ์  หากต้องการขยายหน้าต่างให้มีขนาดเป็นครึ่งหนึ่งของหน้าจอ ผู้ใช้งานเพียงแค่ลากหน้าต่างไปชนกับหน้าจอทางด้านซ้าย หรือ ขวา และหน้าต่างนั้นก็จะมีขนาดเป็นครึ่งหนึ่งของหน้าจอทันที ในกรณีที่ต้องการขยายขนาดของหน้าต่างนั้นให้เต็มหน้าจอ ผู้ใช้งานเพียงแค่ลากหน้าต่างไปด้านบนของจอเพื่อขยายหน้าต่างให้เต็มจอ หรือ ดับเบิ้ล คลิก ที่มุมด้านบน หรือด้านล่างของหน้าต่างเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดของหน้าต่าง ในขณะที่หน้าต่างนั้นยังมีความกว้างเท่าเดิม

    ผู้ใช้งานยังสามารถกำหนดขนาดของหน้าต่างได้โดยใช้แป้นพิมพ์ ดังต่อไปนี้

    windows 7 + ลูกศรซ้าย และ windows 7 + ลูกศรขวา เพื่อขยายหน้าต่างให้มีขนาดครึ่งหนึ่งของหน้าจอ

    windows 7 + ลูกศรบน และ windows 7 + ลูกศรล่าง เพื่อขยายและลดขนาดของหน้าต่าง

    windows 7 + Shift +ลูกศรบน และ windows 7 + Shift + ลูกศรล่าง เพื่อขยายหน้าจอ หรือ ปรับหน้าจอให้มีขนาดเท่าเดิม

    3. เชื่อมต่อกับเครื่องโปรเจคเตอร์ได้อย่างง่ายๆ

    เพียงแค่เชื่อมต่อกับเครื่องโปรเจคเตอร์ ผู้ใช้งานก็จะสามารถแสดงข้อมูลที่ต้องการบนโปรเจคเตอร์ได้อย่างง่ายดายด้วยปลายนิ้วเพียงแค่มีไดรเวอร์ของวินโดวส์ 7 อย่าง displayswitch.exe เมื่อผู้ใช้งานกดปุ่ม windows 7 + P หน้าต่างในการควบคุมโปรเจคเตอร์ก็จะปรากฏขึ้นมาโดยทันที

    windows 7

    เมื่อเลื่อนลูกศร หรือ กดปุ่ม windows 7 + P ผู้ใช้งานจะสามารถเลือกรูปแบบการทำงานที่ต้องการได้ อาทิ clone, extend หรือ external only

    4. จัดการกับการแสดงผลบนจอมอนิเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ

    วินโดวส์ 7 ช่วยให้การทำงานกับจอมอนิเตอร์หลายมอนิเตอร์มีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น ในกรณีที่ผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องทำงานกับจอมอนิเตอร์มากกว่าหนึ่งจอ ผู้ใช้งานสามารถใช้คีย์บอร์ด windows 7 + Shift + ลูกศรซ้าย และ windows 7 + Shift + ลูกศรขวา ในการสลับการแสดงผลระหว่างจอมอนิเตอร์ได้

    5. แอบดูเดสก์ท็อปได้ด้วย Aero Peek

    เครื่องมือที่มีประโยชน์มากในวินโดวส์ 7 ที่คนทั่วไปอาจจะยังไม่รู้จักกันนักก็คือ Windows® Aero® Feature ที่เรียกว่า Aero Peek โดยผู้ใช้งานเพียงแค่คลิกที่สี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมล่างขวามือของทาสก์บาร์ จากนั้นหน้าเดสก์ท็อปก็จะปรากฏขึ้น นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวได้โดยใช้ปุ่ม windows 7 + Space

    windows 7

    6. หมดปัญหากับเรื่องยุ่งยากด้วย Aero shake

    วินโดวส์ 7 ช่วยขจัดความวุ่นวายของการเปิดหน้าต่างหลายๆ หน้าต่างภายในเวลาเดียวกันนอกเหนือไปจากหน้าต่างที่คุณกำลังทำงานอยู่ได้ เพียงแค่จับที่ด้านบนของหน้าต่างที่คุณต้องการทำงานแล้วเขย่าไปมา หรือกดปุ่ม windows 7 + Home ผู้ใช้งานก็จะสามารถลดขนาดของหน้าต่างอื่นๆที่ไม่ได้ใช้งานลงได้ทันที หากผู้ใช้งานต้องการให้หน้าต่างกลับมามีขนาดเท่าเดิมก็สามารถทำได้เพียงเขย่าหน้าต่างที่ทำงานอยู่ หรือแค่กดปุ่ม windows 7 + Home อีกครั้ง

    7. ใช้ Help Desk จัดการปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

    การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์อาจเป็นเรื่องยุ่งยากทั้งกับผู้ใช้งานและ Help Desk นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ วินโดวส์ 7 หาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย Problem Steps Recorder เครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานบันทึกปัญหาที่พวกเขาพบในแต่ละขั้นตอนได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คลิกที่เมนู record จากนั้นจึงเพิ่มข้อคิดเห็นที่ต้องการลงไป ไฟล์ HTML ดังกล่าวก็จะเปลี่ยนเป็นไฟล์ .ZIP ในทันที ซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อไปยัง Help Desk ทำได้ง่ายขึ้น ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปที่เมนูดังกล่าวได้จาก Control Panel  ภายใต้คำสั่ง ‘Record steps to reproduce a problem’ หรือ เปิดโปรแกรม psr.exe จาก Explorer

    ข้อมูลจาก : Microsoft Media Newsletter

    กูเกิ้ลทูลบาร์ บน Chrome?

     

    งานนี้ต้องตอบว่า "เสียใจ" ด้วยจริงๆ ครับ เนื่องจากมันดูเหมือนว่า Google ไม่ได้ต้องการให้ใช้Google Toolbar ในบราวเซอร์ Chrome มากกว่า และหากคุณพยายามติดตั้งมันเข้าไป โปรแกรมก็จะแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้บราวเซอร์ตัวอื่น พร้อมทั้งแจ้งข้อความข้างล่างนี้ 

    "เราเสียใจ(ที่ไม่สามารถติดตั้งได้) เนื่องจาก Google Toolbar 5 ไว้ใช้สำหรับ Internet Explorer และ Firefox เท่านั้น"

    เหตุผลก็คือ Chrome มันมีฟังก์ชันที่คล้าย Google Toolabr อยู่แล้ว ดังนั้น ผู้ใช้จึงไม่มีความจำเป็นต้องติดตั้งทูลบาร์เข้าไปอีก (ปกติ Google Toolbar จะมีฟังก์ชัน Search, bookmarks, search suggestions, Web history และชอร์ทคัตสำหรับการเข้าถึง Google apps) แต่คำแนะนำข้างต้นน่าจะมีคำตอบที่สวยกว่าการให้สวิตช์ไปใช้บราวเซอร์ตัวอื่นแทนที่จะป็น Chrome นะครับ ว่าไหม?

    ทำไมลบ"แอนตี้ไวรัส"ไม่ได้?

     

    ปัญหาซอฟต์แวร์ดื้อยา ไม่ยอมออกจากเครื่อง แม้ผู้ใช้จะพยายามถอดถอนสักกี่ครั้งก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องมาเจอกับซอฟต์แวร์ที่มีความสำคัญต่อการใช้งานอย่างโปรแกรมแอนตี้ไวรัส หรือแอนตี้สปายแวร์ด้วยแล้ว หาก uninstall ออกได้ไม่หมด คงนอนหลับไม่เป็นสุขเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่า มันเหลืออะไรไว้ในเครื่องบ้าง แล้วมันจะให้คุณ หรือเป็นโทษในภายหลัง หรือเปล่า? ก็ไม่รู้ ซึ่งปกติซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสจะพยายามป้องกันตัวเองจากความพยายามที่จะปิดมัน หรือลบมันจากเหล่าไวรัสอันธพาลอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกใจทีมันอาจจะคิดว่า คุณกำลังจะทำลาย(ลบ)มันเหมือนพวกไวรัส หรือมัลแวร์ต่างๆ นั่นเอง คิดได้ดังนั้น มันก็เลยไม่ยอมให้คุณจัดการซะนี่

    แฮะๆ พล่ามซะยาวเลย มาดูคำตอบสั้นๆ กันดีกว่านะครับ สำหรับการกำจัดซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส และสปายแวร์ต่างๆ ผมมีตัวช่วยที่แจกฟรี(อีกแล้ว) โดยมันเกิดมาเพื่อจัดการถอดรากถอนโคนเหล่าโปรแกรมแอนตี้มัลแวร์โดยเฉพาะ ซึ่งมันไม่สนว่า โปรแกรมนั้นจะเป็นยี่ห้ออะไร ถ้ารู้จัก ก็จะจัดการลบออกจากเครื่่องของคุณให้สิ้นซากทันที สำหรับฟรีแวร์ตัวนี้มีชื่อว่า AppRemover ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบในรายการโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่มันถอดถอนได้ AVG เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ลองดาวน์โหลดไปใช้ดูนะครับ

    I-SWARM ฝูงแมลงจักรกลจิ๋วบุกโลก!!!

     

    โครงการหุ่นยนต์จิ๋วที่ออกแบบคล้ายฝูงแมลง (I-Swarm micro Robot Project) กำลังดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ซึ่งจากจุดเริ่มต้นที่นำเสนอด้วยภาพคอมพิวเตอร์กราฟิก ผ่านมา 4 ปี ฝูงแมลงจักรกลทีมีขนาดเล็กดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะสามารถเคลื่อนที่ได้เท่านั้น แต่พวกมันยังฉลาดพอที่จะหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้เองอีกด้วย

     

    ประเด็นที่น่าประทับใจของเจ้าหุ่นยนต์จิ๋วพวกนี้ก็คือ ความสามารถในการย่อส่วนให้กลไก และวงจรการทำงานทุกอย่างถูกรวมไว้ในตัว พวกมันสามารถเคลื่อนไหวด้วยก้าวสั้นๆ โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ มาพร้อมกับวงจรอินฟราเรดตรวจจับสิ่งกีดขวาง โดยมีสมองที่ควบคุมการทำงานเป็นวงจรรวมที่ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ (ASIC) และทั้งหมดทั้งมวลจะถูกรวมอยู่บนตัวถังที่มีขนาดเล็กกว่าปลายเล็บของมนุษย์

    สำหรับคำว่า I-SWARM ย่อมาจาก "Intelligent Small-World Autonomous Robots for Micro-manipulation" ซึ่งแม้ฟังก์ชันในปัจจุบันจะทำได้แค่เคลื่อนไหว หลบสิ่งกีดขวางและส่งเสียง (piezoelectric ที่อยู่ด้านหน้า) โดยการทำงานของลำโพงจิ๋วทำให้เจ้า I-SWARM สามารถเคลื่อนที่ไปในทิศทางต่างๆ ด้วยสามขาของมันได้โดยอัตโนมัติ สำหรับทิศทางการเคลื่อนที่ก็จะขึ้นอยู่กับความถี่เสียงที่ปล่อยออกมาแตกต่างกัน เชื่อว่า ในอนาคตอันใกล้ พวกมันจะมีฟังก์ชันการทำงานที่ฉลาดมากกว่านี้อย่างแน่นอน

     

    วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

    10 โปรแกรมสามัญประจำ NetBook ((ต้องลอง!!!))

     

    เมื่อพูดถึงคอมพิวเตอร์พกพาที่มีขนาดเล็กกว่าเครื่องแลปทอปทั่วไป ณ วันนี้ คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับ NetBook หรือ Mini NoteBook นิยามใหม่ของคอมพิวเตอร์บนฝ่ามือ ซึ่งล่าสุดนั้นโน้ตบุ๊กจิ๋วเหล่านี้ก็ถูกเสริมกำลังด้วยชิปประมวลผล Intel Atom เพื่อให้มีศักยภาพในการรองรับงานต่างๆ ได้มากขึ้น

    แต่ถึงกระนั้นก็ตาม แม้เหล่าสมองกลบนฝ่ามือจะมีชิปตัวใหม่มาคอยขับเคลื่อน แต่บรรดาโปรแกรมต่างๆ ที่ผู้ใช้นำมาติดตั้งลงในเครื่อง ล้วนเป็นโปรแกรมที่รันอยู่บนเครื่องพีซี หรือไม่ก็โน้ตบุ๊กทั่วไปแทบทั้งสิ้น ซึ่งส่งผลร้ายกับโน้ตบุ๊กจิ๋วพวกนี้อย่างมาก เพราะมันต้องแบบรับภาระหนักจากโปรแกรมเหล่านี้ และเพื่อให้ทุกท่านที่มี NetBook ได้สัมผัสกับความเร็วในการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ผมมีโปรแกรมสำหรับโน้ตบุ๊กจิ๋วนี้มาฝากกัน 10 โปรแกรมครับ และที่สำคัญเป็นฟรีแวร์ครับ นั่นก็คือ สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบ ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว ถ้าไม่รีบหามาติดตั้งระวังจะเสียใจครับ อิอิ (*-*)/

    1. Ubuntu Netbook Remix
    สำหรับโปรแกรมแรกที่นำมาฝากกันก็คือ ระบบปฏิบัติการ Ubuntu for Netbook ครับ ถึงแม้ว่าผู้ผลิต Netbbok หลายๆ ยี่ห้อ จะติดตั้งระบบปฏิบัติการมาพร้อมเครื่องอย่าง Windows, Xandros, Linpus Linux, gOS และ SUSE ก็ตาม แต่เชื่อว่ามีผู้ใช้หลายคนเริ่มเบื่อหน้าตาโอเอสพวกนี้กันบ้างแล้ว และถ้าคุณเคยใช้ระบบปฏิบัติการที่ชื่อ Ubuntu บนเครื่องพีซีหรือโน้ตบุ๊กทั่วไปมาบ้าง คงยังจำความประทับใจในเรื่องความคล่องตัวและความเร็วของโอเอสตัวนี้ได้ ตอนนี้ บริษัท Canonical ได้จัดทำ Ubuntu เวอร์ชันพิเศษที่ชื่อว่า Ubuntu Netbook Remix

    สำหรับเครื่อง Netbook OEM ขึ้นมา ซึ่งรองรับชิปประมวลผล Atom รวมถึงออปติไมซ์ให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่ลงตัวกับเครื่อง Netbook อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนโหมดแสดงผลที่ละเอียดขึ้นสำหรับหน้าจอขนาด 10 นิ้ว การจัดวางโปรแกรมอรรถประโยชน์ต่างๆ บนหน้าเดสก์ทอปที่ดูเหมาะสมกับจอภาพขนาดเล็กได้อย่างลงตัว สำหรับ Ubuntu เวอร์ชันนี้เป็นซอฟต์แวร์ OEM สำหรับผู้ผลิต Netbook ที่สนใจ ไม่แจกจ่ายทั่วไป แต่ทว่าก็ไม่พ้นความสามารถของเซียนโอเพ่นซอร์สทั้งหลายที่ได้หาวิธีนำมาลงบนเครื่อง Netbook รุ่นต่างๆ ได้แล้ว

    โดยคุณต้องไปดาวน์โหลด Ubuntu 8.04 (ดาวน์โหลดได้ที่ :http://www.ubuntu.com/getubuntu/download)

    ส่วนรายละเอียดในการติดตั้ง Unbuntu Remix สามารถเข้าไปดูวิธีการได้ที่http://www.ubuntuclub.com/node/846

    2. OpenOffice 3.0
    หากโปรแกรมชุดไมโครซอฟต์ออฟฟิศ เป็นอันดับหนึ่งบนระบบวินโดวส์ ฝั่งโอเพ่นซอร์สคงต้องยกให้ OpenOffice ด้วยเช่นกัน แต่ ณ วันนี้ โปรแกรม OpenOffice ที่เป็นเวอร์ชันบนวินโดวส์ก็มีความสามารถไม่แพ้กันเลย สำหรับผู้ใช้ Netbook ถ้าคุณหวังว่าจะลง Office XP หรือ Office 2007 บนเครื่อง Netbook โดยหวังว่ามันจะทำงานวิ่งฉิวเหมือนบนพีซีละก็ ขอบอกว่าไม่เป็นเช่นนั้นแน่ เพราะนอกจากจะกินพื้นที่การติดตั้งโปรแกรมมากแล้ว ยังใช้ทรัพยากรต่างๆ ของระบบมากพอตัว ซึ่งประสิทธิภาพการทำงานของ Netbook ตอนนี้ ยังไม่อาจตอบสนองได้อย่างที่คุณต้องการ

    แต่สำหรับโปรแกรม OpenOffice 3.0 ถูกออกแบบมาเพื่อระบบฮาร์ดแวร์ที่ไม่ต้องการสเปกสูงมากนัก ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับพวกสเปรดชีตและงานเอกสารต่างๆ ได้คล่องตัวกว่า OpenOffice 3.0 มีโปรแกรมย่อยที่ชื่อ Writer ทำงานเอกสารได้เหมือนกับ Words โปรแกรม Calc สำหรับงานเปรดชีตที่คล้ายคลึงกับ Excel ส่วนงานพรีเซนเตชันที่ไม่แพ้ PowerPoint ก็ต้องพึ่งโปรแกรม Impress และงานฐานข้อมูลต่างๆ ก็ต้องยกให้เป็นหน้าที่ของโปรแกรม Base ที่เป็นคู่แข่งของ Access เป็นสามโปรแกรมหลักๆ ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานขั้นพื้นฐานบน Netbook อ้อ! เกือบลืมเรื่องสำคัญไปครับ คุณสามารถออปติไมซ์การทำงานของโปรแกรม OpenOffice ให้เหมาะกับทรัพยากรบนเครื่อง Netbook ได้

    ส่วนวิธีการนั้นไปอ่านได้ที่เว็บไซต์ http://asuseeehacks.blogspot.com/2008/08/speeding-up-openoffice.html

    สำหรับโปรแกรม OpenOffice 3.0 สามารถดาวนโหลดได้ที่ : http://www.softpedia.com/get/Office-tools/Office-suites/OpenOfficeorg-for-Windows.shtml

    3. Foxit Reader 3.0

    แฟนๆ Acrobat Reader ที่ต้องการอ่านไฟล์เอกสาร PDF บนเครื่อง Netbook อาจผิดหวังกับความเร็ว เมื่อต้องเปิดหน้าเอกสาร PDF ที่มีขนาดไฟล์ใหญ่ๆ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากตัวโปรแกรมใช้ทรัพยากรของเครื่องไปมากพอตัว ทำให้แสดงอาการกระตุกให้เห็น ถึงแม้คุณจะลงเวอร์ชัน Lite แล้วก็ตาม แต่นั่นก็เป็น Lite สำหรับพีซีและโน้ตบุ๊กทั่วไป Foxit Reader 3.0 ทางเลือกใหม่ในการอ่านเอกสาร PDF บนโน้ตบุ๊กจิ๋ว โปรแกรมที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วในการเปิดหน้าเอกสาร PDF ซึ่งมีขนาดโปรแกรมที่เล็กเพียง 3.7 เมกะไบต์ ไม่เปลืองพื้นที่การติดตั้ง ตัวโปรแกรมมีฟังก์ชันในการแปลงเอกสาร PDF ไปเป็น Text File อื่นๆ ด้วย และในเวอร์ชัน 3.0 นี้ ยังเพิ่มระบบความปลอดภัยของเอกสารลงไปด้วย ส่วนทูลอื่นๆ ในโปรแกรมก็ถือว่าไม่แพ้ Acrobat เข่นกัน เอาเป็นว่าใครที่ใช้ Nebook รีบไปดาวน์โหลดฟรีเวอร์ชันจากเว็บไซต์ http://www.foxitsoftware.com/pdf/rd_intro.php มาใช้งานกันได้เลยครับ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะลืมโปรแกรมตัวเก่าไปเลย!!!

    4. FireFox

    หาก Google Chrome ที่เป็นเวอร์ชันสำหรับลินุกซ์และโอเพ่นซอร์สอื่นๆ ออกมาเมื่อไร โปรแกรมในหมวดเว็บบราวเซอร์สำหรับ Netbook คงไม่ได้มีแค่จิ้งจอกไฟที่ชื่อ FireFox แน่ เพราะด้วยคุณสมบัติหลายอย่างที่ดีพอ และเหมาะสมสำหรับโน้ตบุ๊กจิ๋ว จึงต้องเว้นที่ว่างไว้สำหรับ Google Chrome ด้วย แต่ชั่วโมงนี้คงต้องยกความดีให้กับ FireFox ไปก่อน เพราะไม่ว่าจะรันบนแพลตฟอร์มไหน เล็กหรือใหญ่ FireFox ก็ยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นเว็บบราวเซอร์ตัวโปรดที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้และไว้วางใจ

    สำหรับผู้ใช้ Netbook ก็เข่นเดียวกัน การติดตั้ง FireFox 3.0 ไม่ได้ทำให้เครื่องคุณช้าลงอย่างที่คิด ถึงแม้ในช่วงแรกผู้ใช้หลายคนจะพบปัญหาเรื่องการแสดงผลบนหน้าเว็บเพจ แต่หลังจากปรับแต่ง FireFox ให้เข้ากับทรัพยากรระบบที่มี เว็บบราวเซอร์ตัวนี้ก็วิ่งฉิวไม่แพ้บนพีซีเลยเช่นกัน สำหรับผู้ที่ต้องการจูนอัพ ปรับสปีด FireFox คุณสามารถดูรายละเอียดในรูปแบบคลิปวิดีโอได้ที่ Youtube.com โดยค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด “Speed Up FireFox” ส่วนโปรแกรม FireFox เวอร์ชันล่าสุด (3.1 Beta)

    สามารถดาวน์โหลดได้ที่ : http://www.softpedia.com/get/Internet/Browsers/Mozilla-Firefox-Final.shtml

    5. VLC Media Player

    ถ้าคุณจะดูหนังบน Netbook ด้วยโปรแกรมตัวเดียวกับที่ใช้บนพีซีละก็ หากไม่ใช่โปรแกรมตัวเล็กๆ ที่กินทรัพยากรเครื่องน้อยๆ ละก็ ขอบอกเลยว่า Netbook ของคุณจะทำงานได้ช้าลงแน่ VLC Media Player เป็นโปรแกรมเล่นไฟล์มีเดีย ทั้งวิดีโอ ออดิโอ ที่มาจากฝั่งโอเพ่นซอร์ส ซึ่งการันตีในเรื่องการใช้ทรัพยากรของเครื่องน้อย และมีขนาดไฟล์ไม่ใหญ่

    ถ้าคุณเคยใช้ Windows Media Classic ที่มากับชุด Codec ของโปรแกรม K-Lie ตัวนี้จะมีขนาดเล็กกว่า แถมคุณสมบัติก็ไม่ธรรมด้วย โดยรอบรองฟอร์แมตวิดีโอ/ ออดิโอ ได้เกือบทุกชนิด จุดเด่นของโปรแกรมตัวนี้นอกจากขนาดกะทัดรัดแล้ว ยังสนับสนุนการทำสตรีมมิ่งวิดีโอ/ออดิโอ ได้อีกด้วย ซึ่งรองรับโพรโตคอลสื่อสารอย่าง IPV6 ทำ Video LAN ขนาดย่อมๆ ในวงแลนของคุณได้เลย ที่สำคัญยังเป็นโอเพ่นซอร์สที่แจกจ่ายโค้ดโปรแกรมสำหรับผู้ที่ต้องการนำไปพัฒนาต่ออีกด้วย มีให้เลือกทั้งเวอร์ชันบนวินโดวส์ แมคฯ และลินุกซ์

    สนใจเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมและโค้ดได้ที่ http://www.videolan.org/vlc/