วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

10 โปรแกรมสามัญประจำ NetBook ((ต้องลอง!!!))

 

เมื่อพูดถึงคอมพิวเตอร์พกพาที่มีขนาดเล็กกว่าเครื่องแลปทอปทั่วไป ณ วันนี้ คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับ NetBook หรือ Mini NoteBook นิยามใหม่ของคอมพิวเตอร์บนฝ่ามือ ซึ่งล่าสุดนั้นโน้ตบุ๊กจิ๋วเหล่านี้ก็ถูกเสริมกำลังด้วยชิปประมวลผล Intel Atom เพื่อให้มีศักยภาพในการรองรับงานต่างๆ ได้มากขึ้น

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม แม้เหล่าสมองกลบนฝ่ามือจะมีชิปตัวใหม่มาคอยขับเคลื่อน แต่บรรดาโปรแกรมต่างๆ ที่ผู้ใช้นำมาติดตั้งลงในเครื่อง ล้วนเป็นโปรแกรมที่รันอยู่บนเครื่องพีซี หรือไม่ก็โน้ตบุ๊กทั่วไปแทบทั้งสิ้น ซึ่งส่งผลร้ายกับโน้ตบุ๊กจิ๋วพวกนี้อย่างมาก เพราะมันต้องแบบรับภาระหนักจากโปรแกรมเหล่านี้ และเพื่อให้ทุกท่านที่มี NetBook ได้สัมผัสกับความเร็วในการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ผมมีโปรแกรมสำหรับโน้ตบุ๊กจิ๋วนี้มาฝากกัน 10 โปรแกรมครับ และที่สำคัญเป็นฟรีแวร์ครับ นั่นก็คือ สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบ ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว ถ้าไม่รีบหามาติดตั้งระวังจะเสียใจครับ อิอิ (*-*)/

1. Ubuntu Netbook Remix
สำหรับโปรแกรมแรกที่นำมาฝากกันก็คือ ระบบปฏิบัติการ Ubuntu for Netbook ครับ ถึงแม้ว่าผู้ผลิต Netbbok หลายๆ ยี่ห้อ จะติดตั้งระบบปฏิบัติการมาพร้อมเครื่องอย่าง Windows, Xandros, Linpus Linux, gOS และ SUSE ก็ตาม แต่เชื่อว่ามีผู้ใช้หลายคนเริ่มเบื่อหน้าตาโอเอสพวกนี้กันบ้างแล้ว และถ้าคุณเคยใช้ระบบปฏิบัติการที่ชื่อ Ubuntu บนเครื่องพีซีหรือโน้ตบุ๊กทั่วไปมาบ้าง คงยังจำความประทับใจในเรื่องความคล่องตัวและความเร็วของโอเอสตัวนี้ได้ ตอนนี้ บริษัท Canonical ได้จัดทำ Ubuntu เวอร์ชันพิเศษที่ชื่อว่า Ubuntu Netbook Remix

สำหรับเครื่อง Netbook OEM ขึ้นมา ซึ่งรองรับชิปประมวลผล Atom รวมถึงออปติไมซ์ให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่ลงตัวกับเครื่อง Netbook อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนโหมดแสดงผลที่ละเอียดขึ้นสำหรับหน้าจอขนาด 10 นิ้ว การจัดวางโปรแกรมอรรถประโยชน์ต่างๆ บนหน้าเดสก์ทอปที่ดูเหมาะสมกับจอภาพขนาดเล็กได้อย่างลงตัว สำหรับ Ubuntu เวอร์ชันนี้เป็นซอฟต์แวร์ OEM สำหรับผู้ผลิต Netbook ที่สนใจ ไม่แจกจ่ายทั่วไป แต่ทว่าก็ไม่พ้นความสามารถของเซียนโอเพ่นซอร์สทั้งหลายที่ได้หาวิธีนำมาลงบนเครื่อง Netbook รุ่นต่างๆ ได้แล้ว

โดยคุณต้องไปดาวน์โหลด Ubuntu 8.04 (ดาวน์โหลดได้ที่ :http://www.ubuntu.com/getubuntu/download)

ส่วนรายละเอียดในการติดตั้ง Unbuntu Remix สามารถเข้าไปดูวิธีการได้ที่http://www.ubuntuclub.com/node/846

2. OpenOffice 3.0
หากโปรแกรมชุดไมโครซอฟต์ออฟฟิศ เป็นอันดับหนึ่งบนระบบวินโดวส์ ฝั่งโอเพ่นซอร์สคงต้องยกให้ OpenOffice ด้วยเช่นกัน แต่ ณ วันนี้ โปรแกรม OpenOffice ที่เป็นเวอร์ชันบนวินโดวส์ก็มีความสามารถไม่แพ้กันเลย สำหรับผู้ใช้ Netbook ถ้าคุณหวังว่าจะลง Office XP หรือ Office 2007 บนเครื่อง Netbook โดยหวังว่ามันจะทำงานวิ่งฉิวเหมือนบนพีซีละก็ ขอบอกว่าไม่เป็นเช่นนั้นแน่ เพราะนอกจากจะกินพื้นที่การติดตั้งโปรแกรมมากแล้ว ยังใช้ทรัพยากรต่างๆ ของระบบมากพอตัว ซึ่งประสิทธิภาพการทำงานของ Netbook ตอนนี้ ยังไม่อาจตอบสนองได้อย่างที่คุณต้องการ

แต่สำหรับโปรแกรม OpenOffice 3.0 ถูกออกแบบมาเพื่อระบบฮาร์ดแวร์ที่ไม่ต้องการสเปกสูงมากนัก ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับพวกสเปรดชีตและงานเอกสารต่างๆ ได้คล่องตัวกว่า OpenOffice 3.0 มีโปรแกรมย่อยที่ชื่อ Writer ทำงานเอกสารได้เหมือนกับ Words โปรแกรม Calc สำหรับงานเปรดชีตที่คล้ายคลึงกับ Excel ส่วนงานพรีเซนเตชันที่ไม่แพ้ PowerPoint ก็ต้องพึ่งโปรแกรม Impress และงานฐานข้อมูลต่างๆ ก็ต้องยกให้เป็นหน้าที่ของโปรแกรม Base ที่เป็นคู่แข่งของ Access เป็นสามโปรแกรมหลักๆ ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานขั้นพื้นฐานบน Netbook อ้อ! เกือบลืมเรื่องสำคัญไปครับ คุณสามารถออปติไมซ์การทำงานของโปรแกรม OpenOffice ให้เหมาะกับทรัพยากรบนเครื่อง Netbook ได้

ส่วนวิธีการนั้นไปอ่านได้ที่เว็บไซต์ http://asuseeehacks.blogspot.com/2008/08/speeding-up-openoffice.html

สำหรับโปรแกรม OpenOffice 3.0 สามารถดาวนโหลดได้ที่ : http://www.softpedia.com/get/Office-tools/Office-suites/OpenOfficeorg-for-Windows.shtml

3. Foxit Reader 3.0

แฟนๆ Acrobat Reader ที่ต้องการอ่านไฟล์เอกสาร PDF บนเครื่อง Netbook อาจผิดหวังกับความเร็ว เมื่อต้องเปิดหน้าเอกสาร PDF ที่มีขนาดไฟล์ใหญ่ๆ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากตัวโปรแกรมใช้ทรัพยากรของเครื่องไปมากพอตัว ทำให้แสดงอาการกระตุกให้เห็น ถึงแม้คุณจะลงเวอร์ชัน Lite แล้วก็ตาม แต่นั่นก็เป็น Lite สำหรับพีซีและโน้ตบุ๊กทั่วไป Foxit Reader 3.0 ทางเลือกใหม่ในการอ่านเอกสาร PDF บนโน้ตบุ๊กจิ๋ว โปรแกรมที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วในการเปิดหน้าเอกสาร PDF ซึ่งมีขนาดโปรแกรมที่เล็กเพียง 3.7 เมกะไบต์ ไม่เปลืองพื้นที่การติดตั้ง ตัวโปรแกรมมีฟังก์ชันในการแปลงเอกสาร PDF ไปเป็น Text File อื่นๆ ด้วย และในเวอร์ชัน 3.0 นี้ ยังเพิ่มระบบความปลอดภัยของเอกสารลงไปด้วย ส่วนทูลอื่นๆ ในโปรแกรมก็ถือว่าไม่แพ้ Acrobat เข่นกัน เอาเป็นว่าใครที่ใช้ Nebook รีบไปดาวน์โหลดฟรีเวอร์ชันจากเว็บไซต์ http://www.foxitsoftware.com/pdf/rd_intro.php มาใช้งานกันได้เลยครับ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะลืมโปรแกรมตัวเก่าไปเลย!!!

4. FireFox

หาก Google Chrome ที่เป็นเวอร์ชันสำหรับลินุกซ์และโอเพ่นซอร์สอื่นๆ ออกมาเมื่อไร โปรแกรมในหมวดเว็บบราวเซอร์สำหรับ Netbook คงไม่ได้มีแค่จิ้งจอกไฟที่ชื่อ FireFox แน่ เพราะด้วยคุณสมบัติหลายอย่างที่ดีพอ และเหมาะสมสำหรับโน้ตบุ๊กจิ๋ว จึงต้องเว้นที่ว่างไว้สำหรับ Google Chrome ด้วย แต่ชั่วโมงนี้คงต้องยกความดีให้กับ FireFox ไปก่อน เพราะไม่ว่าจะรันบนแพลตฟอร์มไหน เล็กหรือใหญ่ FireFox ก็ยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นเว็บบราวเซอร์ตัวโปรดที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้และไว้วางใจ

สำหรับผู้ใช้ Netbook ก็เข่นเดียวกัน การติดตั้ง FireFox 3.0 ไม่ได้ทำให้เครื่องคุณช้าลงอย่างที่คิด ถึงแม้ในช่วงแรกผู้ใช้หลายคนจะพบปัญหาเรื่องการแสดงผลบนหน้าเว็บเพจ แต่หลังจากปรับแต่ง FireFox ให้เข้ากับทรัพยากรระบบที่มี เว็บบราวเซอร์ตัวนี้ก็วิ่งฉิวไม่แพ้บนพีซีเลยเช่นกัน สำหรับผู้ที่ต้องการจูนอัพ ปรับสปีด FireFox คุณสามารถดูรายละเอียดในรูปแบบคลิปวิดีโอได้ที่ Youtube.com โดยค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด “Speed Up FireFox” ส่วนโปรแกรม FireFox เวอร์ชันล่าสุด (3.1 Beta)

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ : http://www.softpedia.com/get/Internet/Browsers/Mozilla-Firefox-Final.shtml

5. VLC Media Player

ถ้าคุณจะดูหนังบน Netbook ด้วยโปรแกรมตัวเดียวกับที่ใช้บนพีซีละก็ หากไม่ใช่โปรแกรมตัวเล็กๆ ที่กินทรัพยากรเครื่องน้อยๆ ละก็ ขอบอกเลยว่า Netbook ของคุณจะทำงานได้ช้าลงแน่ VLC Media Player เป็นโปรแกรมเล่นไฟล์มีเดีย ทั้งวิดีโอ ออดิโอ ที่มาจากฝั่งโอเพ่นซอร์ส ซึ่งการันตีในเรื่องการใช้ทรัพยากรของเครื่องน้อย และมีขนาดไฟล์ไม่ใหญ่

ถ้าคุณเคยใช้ Windows Media Classic ที่มากับชุด Codec ของโปรแกรม K-Lie ตัวนี้จะมีขนาดเล็กกว่า แถมคุณสมบัติก็ไม่ธรรมด้วย โดยรอบรองฟอร์แมตวิดีโอ/ ออดิโอ ได้เกือบทุกชนิด จุดเด่นของโปรแกรมตัวนี้นอกจากขนาดกะทัดรัดแล้ว ยังสนับสนุนการทำสตรีมมิ่งวิดีโอ/ออดิโอ ได้อีกด้วย ซึ่งรองรับโพรโตคอลสื่อสารอย่าง IPV6 ทำ Video LAN ขนาดย่อมๆ ในวงแลนของคุณได้เลย ที่สำคัญยังเป็นโอเพ่นซอร์สที่แจกจ่ายโค้ดโปรแกรมสำหรับผู้ที่ต้องการนำไปพัฒนาต่ออีกด้วย มีให้เลือกทั้งเวอร์ชันบนวินโดวส์ แมคฯ และลินุกซ์

สนใจเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมและโค้ดได้ที่ http://www.videolan.org/vlc/

6 วิธีใช้ประโยชน์จาก Twitter

 

images

ทวิตเตอร์มีแต่เรื่องไร้สาระ ทวิตเตอร์เป็นที่ให้คนใช้ยกหางบูชาตัวเอง และอื่นๆ อีกนานาสารพัดที่คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับโซเชียลเน็ตเวิร์กแห่งนี้ แต่จริงๆ แล้วทวิตเตอร์จะเป็นประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อถ้าคุณใช้งานเป็น และมองข้ามเรื่องที่หลายคนพูดไป (ซึ่งก็จริง เราไม่เถียง) เพราะโดยธรรมชาติของบริการแห่งนี้ จะเอื้อต่อการฝากข้อความสั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เหมาะสำหรับใช้เป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า หรือใช้ติดตามเหตุการณ์ที่คุณสนใจจากคนที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ รวมไปถึงใช้ตามดูชีวิตของบุคคลที่คุณสนใจเป็นพิเศษ และนี่คือ 6 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้ทวิตเตอร์มีประโยชน์สำหรับคุณ
ติดตามข่าว

เว็บไซต์โดยส่วนใหญ่ยังถือเป็นแหล่งข้อมูลและแหล่งข่าวที่สมบูรณ์กว่า แต่ถ้าคุณต้องการตามข่าวเฉพาะเรื่องในแบบหายใจรดต้นคอ และสนใจแม้แต่รายละเอียดยิบย่อย ทวิตเตอร์จะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะคุณสามารถอ่านรายงานสดจากยูสเซอร์ของทวิตเตอร์คนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือสถานที่เกิดเหตุ เช่นกรณีเครื่องบินตกที่แม่น้ำฮัดสัน ผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นก็จะโพสต์เล่าเรื่องราวที่พบเห็นไว้ในทวิตเตอร์ของพวกเขา (คอนเซ็ปต์ของทวิตเตอร์ก็คือ การบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวันด้วยข้อความสั้นๆ ไม่เกิน 140 ตัวอักษรต่อหนึ่งอัพเดต)

นอกจากประชาชนคนธรรมดาแล้ว คุณยังสามารถติดตามทวิตเตอร์ของไซต์ข่าวอย่าง CNN (www.twitter.com/cnn หรือเรียกย่อๆ ว่า @CNN) ซึ่งจะโพสต์หัวข้อข่าวพร้อมกับลิงก์ไปยังเนื้อหารายละเอียด แต่เราชอบ @cnnbrk มากกว่า แม้จะไม่ได้เป็นทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของสถานีข่าวแห่งนี้ แต่ก็ดีตรงที่จะสรุปข่าวให้อ่านแล้วเข้าใจง่ายๆ ในประโยคเดียว ไม่ต้องตามลิงก์ไปอ่านอีก (เว้นแต่ว่าคุณสนใจรายละเอียด)

@NYTimes ก็เป็นอีกจุดที่คุณจะพบหัวข้อข่าวด่วนทุกชั่วโมง แถมด้วยทวิตเตอร์ของนักเขียนและของคอลัมน์ประจำในหนังสือพิมพ์ที่ทรงอิทธิพลฉบับนี้ ที่น่าสนใจอื่นๆ สำหรับเรื่องของข่าวก็จะมีอย่างเช่น @BreakingNewsOn, @nprnews, @weirdnews, @macrumors, @MarsPhoenix, @Astronautics และแน่นอนว่าพีซีแมกะซีนเองก็มีทวิตเตอร์รายงานข่าวในด้านเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน (@PCMag)
ช่องทางติดต่อกับบริษัทผู้ผลิต

การใช้ทวิตเตอร์เป็นช่องทางให้บริการหลังการขายอย่างเต็มรูปแบบ อาจยังฟังดูไม่ค่อยเข้าทีเท่าไรสำหรับบริษัทส่วนใหญ่ อย่างน้อยก็จนกว่าบริการแห่งนี้จะมีสมาชิกเพิ่มอีก 10 ล้านราย อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน คุณสามารถใช้ทวิตเตอร์เป็นช่องทางในการร้องเรียนได้ และเสียงของคุณก็จะดังไปถึงเจ้าของสินค้า เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Zappos, Starbucks, Whole Foods, JetBlue และอื่นๆ อีกมากมาย (มากมายจริงๆ) ล้วนแล้วแต่มีแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ให้คุณใช้ในการติดต่อ

ดังนั้นต่อจากนี้ไป ถ้าคุณมีเรื่องอยากร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ลองใช้กูเกิ้ลเสิร์ชชื่อของบริษัทเจ้าของสินค้า แล้วตามด้วยคำว่า Twitter ถ้าบริษัทดังกล่าวมีแอ็กเคานต์บนทวิตเตอร์ คุณก็จะพบในผลการค้นหาลำดับต้นๆ ที่สำคัญคือ พยายามเรียบเรียงเรื่องร้องเรียนของคุณให้กระชับได้ใจความ เพราะคุณต้องไม่ลืมว่าข้อความจะถูกจำกัดไว้แค่ไม่เกิน140 ตัวอักษร
ขอความช่วยเหลือ

เช่นเดียวกับบล็อกและฟอรัม ทวิตเตอร์คือสถานที่ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการถามคำถามที่คุณขี้เกียจค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง รวมไปถึงการขอความช่วยเหลือ (เช่น “มีใครว่างช่วยขนของย้ายบ้านวันศุกร์ไหม?”) ขอความคิดเห็น (“กล้วยแบบออร์แกนิกมีรสชาติดีกว่าหรือเปล่า?”) หรือขอคำแนะนำ (“ใส่แรมให้กับแมคบุ๊กใหม่เท่าไรดี?”) เป็นต้น

โอเว่น ริ้งเคิ้ล ผู้พัฒนาทวิตเตอร์บอกกับเราว่า ปัญหาที่คุณเคยใช้เวลาคิด 5 นาที อาจได้คำตอบออกมาภายในเวลา 10 วินาทีบนทวิตเตอร์ แต่นี่หมายถึงอย่างน้อยคุณต้องมีเพื่อนๆ ในชีวิตจริงตามดู (follow) ทวิตเตอร์ของคุณอยู่ และแน่นอนว่าถ้าจะให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุณก็ควรตามดูทวิตเตอร์ของเพื่อนด้วย เพื่อเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
โปรโมตผลงานหรือบริษัทของคุณ

เช่นเคยคือ ทวิตเตอร์ไม่ใช่บริการแรกที่ให้คุณใช้ประโยชน์ในลักษณะนี้ แต่ด้วยธรรมชาติของตัวมันเอง ทำให้ทวิตเตอร์เป็นทางเลือกที่เหมาะมากสำหรับการโปรโมตผลงานหรือประชาสัมพันธ์บริษัทของคุณ ขอแค่คุณทำแบบไม่กระโตกกระตาก มีลิงก์ไปยังแอพพลิเคชันที่คุณเพิ่งเขียนเสร็จ หรือสินค้าตัวใหม่ของบริษัทบ้างในบางโอกาส ผสมผสานไปกับเรื่องราวอื่นๆ ของคุณ ถ้าเป็นไปได้ พยายามอย่าให้ลิงก์โปรโมตงานมีเกินกว่า 3 ลิงก์ต่อสัปดาห์ เพราะนั่นจะเป็นการยัดเยียดและทำให้คนที่ตามดูคุณรู้สึกไม่ดีเปล่าๆ หรือหนักๆ เข้าก็อาจไม่สนใจที่จะตามคุณอีก
ไม่ขาดการติดต่อกับเพื่อนฝูง

นอกจากดูเรื่องราวการใช้ชีวิตประจำวันของคนแปลกหน้าเพื่อความบันเทิงแล้ว ทวิตเตอร์ยังเป็นช่องทางโปรดที่เราชอบใช้เพื่อไม่ให้ขาดการติดต่อจากเพื่อนฝูง แค่เขียนข้อความบอกเล่าเรื่องราวสั้นๆ ในแต่ละวัน เพื่อนๆ ก็จะรู้ความเป็นไปของคุณ ว่ากำลังทุกข์หรือสุขแค่ไหน ในทางตรงกันข้าม คุณก็สามารถรู้ได้ว่ามีเพื่อนคนไหนเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่หรือเปล่า หรือคนไหนกำลังอยู่ในอารมณ์เศร้าและต้องการกำลังใจ ต้องการให้คุณไปหา นี่ยังไม่นับรวมถึงการใช้ชวนกินข้าว หรือชวนทำกิจกรรมอื่นๆ
พบคนดัง

ยูสเซอร์ชื่อดังของทวิตเตอร์ที่มีคนตามดูเป็นจำนวนมากบางรายอาจไม่สนใจข้อความที่คุณส่งไปถึง แต่ไม่ใช่กับเบรนท์ สปินเนอร์ (ดาราจากสตาร์เทร็ก) ซึ่งค่อนข้างเป็นมิตรทีเดียว เช่นเดียวกับดาราตลกอย่างสตีเฟ่น ฟราย หรือถ้าคุณมีไอดอลหรือฮีโร่ในดวงใจ ลองเสิร์ชหาทวิตเตอร์ของเขาเหล่านั้น แล้วติดตามดูว่า พวกเขาใช้ชีวิตอย่างไรจึงประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณอยากเข้าสังคมออนไลน์แห่งนี้ แต่ยังรู้สึกขัดๆ เขินๆ และก็ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี ลองดู10 ทิปที่เราแนะนำในบทความนี้ เชื่อว่าน่าจะทำให้คุณใช้งานทวิตเตอร์ได้คล่องขึ้นราวกับว่าใช้งานมาได้ระยะหนึ่งแล้ว

1. ย่อ URL ให้สั้นลง

ในการใช้งานทวิตเตอร์ เรื่องหนึ่งที่คุณหนีไม่พ้นก็คือการแชร์ลิงก์ แต่เนื่องจากในแต่ละทวีต คุณเขียนข้อความได้ไม่เกิน 140 ตัวอักษร ถ้า URL ที่คุณต้องการแชร์ยาวเหยียด ใช้บริการย่อ URL ให้สั้นลง เพื่อที่คุณจะได้มีพื้นที่สำหรับเขียนข้อความมากขึ้น ที่เราชอบก็อย่างเช่น tinyurl.com, is.gd, ow.ly และ bit.ly
2. RT = Retweet

ถ้าคุณพบทวีตที่ถูกใจ และต้องการก๊อบปี้ไปแปะ (paste) ไว้บนไซต์ของตัวเอง หรือที่ไหนก็ตาม คุณสามารถทำได้ไม่มีปัญหา ตราบใดที่คุณให้เครดิตกับผู้เขียนข้อความในทวีตนั้น ซึ่งโดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว จะใช้การใส่คำว่า RT แล้วตามด้วยชื่อทวิตเตอร์ของเจ้าของทวีต เช่นถ้าคุณนำทวีตของเราไปใช้ คุณก็ควรใส่คำว่า RT @PCMag ไว้น่าทวีตนั้น
3. ส่งเมสเซจส่วนตัว

ด้วยฟังก์ชัน Direct Messages ของทวิตเตอร์ คุณสามารถส่งข้อความส่วนตัวที่มีขนาดไม่เกิน 140 ตัวอักษรไปยังผู้ใช้ทวิตเตอร์คนอื่นๆ ได้ ลักษณะจะคล้ายกับอีเมล์ฉบับย่อ แต่มีข้อแม้ว่าคนที่คุณจะส่งข้อความถึงได้นั้น ต้องเป็นยูสเซอร์ที่ตามดู (follow) คุณเท่านั้น
4. ใช้สัญลักษณ์ @

ถ้าคุณต้องการอ้างถึง ให้เครดิต หรืออยากติดต่อกับผู้ใช้ทวิตเตอร์คนอื่นๆ ให้ใส่สัญลักษณ์ @แล้วตามด้วยชื่อทวิตเตอร์ของคนๆ นั้นไว้ในทวีตของคุณ ข้อความในส่วนดังกล่าว (@ยูสเซอร์เนม) ก็จะกลายเป็นลิงก์นำไปยังทวิตเตอร์ของยูสเซอร์รายที่ว่า และที่สำคัญคือ ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนั้นสามารถเห็นข้อความในทวีตนี้ของคุณด้วย ในทางตรงกันข้าม คุณก็สามารถเช็กได้ว่ามีใครอ้างถึงคุณในทวีตของพวกเขาบ้าง ด้วยการคลิกที่ @ยูสเซอร์เนมของคุณเองจากกรอบทางขวามือในหน้า Home
5. หาเพื่อนของคุณ

ถ้าคุณยังไม่รู้จะเริ่มต้นสังคมออนไลน์แห่งนี้อย่างไร ลองใช้ Search.twitter.com หาทวิตเตอร์ของเพื่อนคุณ ทวิตเตอร์ของคนดัง หรือของบริษัทที่คุณสนใจ เพื่อที่คุณจะได้ตามดู หรือถ้าคุณมีหัวข้อที่สนใจอยู่แล้ว ก็สามารถใช้หัวข้อนั้นเป็นคีย์เวิร์ดในการค้นหาได้เลย
6. เพิ่มโอกาสในการถูกพบให้กับทวีตของคุณ

ถ้าเรื่องที่คุณกำลังจะเขียนเป็นหัวข้อซึ่งอยู่ในกระแสความสนใจ (เช่นโอบาม่า ซีรีส์เรื่อง Lost หรืออื่นๆ) การใส่เครื่องหมาย # ไว้ข้างหน้าหัวข้อนั้น (เช่น #Lost) จะทำให้คนอื่นๆ พบทวีตของคุณได้ง่ายขึ้น และบางทีเขาเหล่านั้นก็อาจตามดูคุณต่อ ยกตัวอย่างเช่นกรณีของเครื่องบินตกที่แม่น้ำฮัดสัน #flight1549 ได้กลายมาเป็นแท็กยอดฮิต เช่นเดียวกับเป็นคีย์เวิร์ดที่ผู้คนจำนวนมากใช้ในการเสิร์ช
7. แชร์ภาพถ่าย

ผู้คนส่วนใหญ่ชอบที่จะแชร์ภาพของตัวเองให้กับคนทั้งโลกได้ดู และบางคนก็โด่งดังจากการเรื่องนี้ อย่างเช่นกรณีของจานิส คลุมส์ ซึ่งใช้ TwitPic โพสต์ภาพของเที่ยวบิน 1549 ไว้บนทวิตเตอร์ของเขาได้ก่อนใครเพื่อน เช่นเดียวกันคุณสามารถใช้ TwitPic รวมถึงอีกหลายๆ บริการที่ลักษณะคล้ายกันนี้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการอัพโหลดและโพสต์ภาพไว้บนทวิตเตอร์
8. ทวีตจากมือถือ

ทวิตเตอร์ให้คุณส่งข้อความตัวอักษรจากโทรศัพท์มือถือเพื่ออัพเดตทวีตของคุณ เช่นเดียวกับที่รับทวีตใหม่ของคนอื่นๆ ซึ่งคุณตามดูอยู่ได้ แต่ก่อนอื่นคุณต้องเข้าไปที่ Settings คลิกที่แท็บ Devices แล้วใส่หมายเลขโทรศัพท์ของคุณก่อน ในทางตรงกันข้าม ถ้าใช้ไปสักพักแล้วคุณรู้สึกว่าการรับทวีตของคนอื่นๆ บนโทรศัพท์มือถือ สร้างความรำคาญให้กับคุณมากกว่าการได้อัพเดตเรื่องราว คุณก็สามารถเข้ามายกเลิกได้จากในแท็บเดียวกันนี้
9. หาเดสก์ทอปไคลเอ็นต์ดีๆ มาใช้

ด้วยเดสก์ทอปไคลเอ็นต์อย่าง TweetDeck, Twhirl หรือ TwitterFox คุณสามารถรับทวีตและจัดให้เป็นหมวดหมู่หรือเป็นระบบระเบียบสำหรับการตามอ่านได้ ไคลเอ็นต์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์มากถ้าคุณตามดูทวีตของหลายคน และมีการปฏิสัมพันธ์โต้ตอบ รวมไปถึงใช้ฟังก์ชัน direct messages อยู่บ่อยๆ
10. ดาวน์โหลดโมบายไคลเอ็นต์

ถ้าคุณมีแบล็กเบอร์รี่ ไอโฟน หรือสมาร์ตโฟนอื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือทำงานบนเครือข่าย 3G เราอยากแนะนำให้ดาวน์โหลดโมบายไคลเอ็นต์ของทวิตเตอร์มาใช้ เพราะจะช่วยให้คุณทำอะไรได้มากกว่าแค่ส่งข้อความที่เป็นเท็กซ์ ไคลเอ็นต์ที่น่าสนใจก็จะมีอย่างเช่น Twitterific, TwitterBerry, PocketTweets และ Twidroid เป็นต้น

โซนี่เปิดตัวเครื่องเล่น PS3 Slim แล้ว!!!

 

สำหรับ PS3 รุ่นใหม่จะมีราคาอยู่ที่ 300 เหรียญฯ (ประมาณ 11,000 บาท) โดยจะมีขนาดเล็กกว่า และเบากว่า ในขณะที่เพิ่มความจุฮาร์ดดิสก์ขึ้นเป็น 120GB ส่วนคุณสมบัติ และประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจะเหมือนกับ PS3 รุ่นที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี PS3 รุ่นบางจะใช้กินไฟน้อยกว่าถึง 34% ในขณะที่ใช้พื้นในวางตัวเครื่องเล่นลดลงจากเดิมถึง 32%

และทันทีที่มีการประกาศเปิดตัว PS3 รุ่นใหม่ออกมา ทางบริษัทตัดสินใจหั่นราคาของเครื่องเล่นที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันจะลงทันที แต่ประเด็นที่เป็นคำถามคือ จะมีสักกี่คนที่จะยังคงสนใจเครื่องเล่น PS3 รุ่นปัจจุบัน เพื่อจ่ายเงิน 300 เหรียญฯ แลกกับความจุ 80GB ในเมื่อรออีกนิดเดียวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่มีความจุของฮาร์ดดิสก์มากกว่า (120GB) ในราคาเดียวกันก็จะออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าแล้ว

นอกจากข้อได้เปรียบเนื่องจากความบาง ความจุของฮาร์ดดิสก์ และประหยัดพลังงานกว่าแล้ว เฟิร์มเวร์ 3.0 ที่มาพร้อมกับ PS3 รุ่นใหม่ยังได้เพิ่มคุณสมบัติการทำงานใหม่ๆ เข้าไปอีกด้วย ตัวอย่างเช่น BRAVIA Sync ซึ่งเป็นคุณสมบัติการทำงานที่ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานของ PS3 XMB ผ่านทางสายสัญญาณ HDMI ด้วยรีโมททีวีรุ่น BRAVIA ของโซนี่ได้ ในขณะเดียวกัน System Standby จะปิดเครื่องเล่น PS3 ให้อัตโนมัติเมื่อคุณปิดทีวี ทางโซนี่ยังอ้างอีกด้วยว่า เครื่องเล่นรุ่นใหม่จะทำงานได้เงียบกว่า PS3 ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับใครก็ตามที่ชื่นชอบการชมภาพยนต์ด้วยเครื่องเล่นเกมส์ฯ ตลอดจนสนทนาขณะเล่น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนจากเครื่อเล่นอีกต่อไป PS3 รุ่นใหม่ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมฐานตั้ง Vertical Stand ที่จะวางจำหน่ายในราคา 24 เหรียญฯ (ประมาณ 900 บาท) อีกด้วย

 

สุดยอด"เน็ตทอป"สำหรับองค์กรธุรกิจ

 

นอกจาก Veriton N260G จะเหมาะกับออฟฟิศขนาดเล็กแล้ว มันยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในลักษณะต่างๆ ได้อีกมากมาย อย่างเช่น แผนกประชาสัมพันธ์ ห้องเรียน ห้องสมุด โชว์รูม คอลล์เซ็นเตอร์ สำหรับพนักงานประจำเคาน์เตอร์ หรือตู้บริการ 

Veriton N260G เป็นเน็ตทอปขนาดเล็กที่มีรูปร่างคล้ายเน็ตทอปรุ่น AspireRevo ที่ได้เคยแนะนำไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่จะแตกต่างกันที่ AspireRevo สำหรับโฮมยูสที่ใช้แพลตฟอร์ม Nvidia Ion ในขณะที่ N260G จะใช้แพลตฟอร์มาตรฐานคือ Intel Atom และชิปเซตกราฟิก Intel GMA 4500M เพื่อความเข้ากันของระบบทั่วไป ซึ่งจะช่วยให้แอดมินของธุรกิจสามารถจัดการเครื่องพวกนี้ได้ง่ายมาก

สำหรับคุณสมบัติทั่วไปของ N260G จะประกอบด้วยโพรเซสเซอร์ Intel Atom N280 หน่วยความจำ 2GB ระบบปฏิบัติการ Windows XP Pro (หรือ Vista Business) ฮาร์ดดิสก์ 160GB ยูเอสบี 6 พอร์ต สล็อต PCIe mini 1 สล๊อต Gigiebit Ethernet ช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำ พร้อมระบบเชื่อมต่อเน็ตไร้สาย Wi-Fi 802.11 b/g/n และพอร์ต HDMI สำหรับเชื่อมต่อกับมอนิเตอร์จอแบน อ้อ..มันยังมีพอร์ต PS2 สำหรับต่อคีย์บอร์ดและเมาส์ให้อีกด้วย และด้วยความที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กมากมันจึงสามารถวางไว้ในชั้น หรือจะซ่อนไว้ด้านหลังของมอนิเตอร์ก็ได้

ตะลึง!!!บั๊กไอโฟนดู"อีเมล์"ที่ลบแล้วได้

 

สำหรับข้อผิดพลาดของการทำงานที่พบก็คือ อีเมล์ที่ถูกลบทิ้งไปแล้วจะยังคงอยู่ในไอโฟน หรือไอพอดทัช (iPod Touch) โดยเจ้าของเครื่องสามารถเรียกอีเมล์ดังกล่าวขึ้นมาดูได้ด้วยฟังก์ชันค้นหา (search) ซึ่งขณะนี้ทางแอปเปิ้ลกำลังทำการแก้ไขบั๊กดังกล่าว แหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามในแอปเปิ้ลกล่าวว่า ข้อผิดพลาดที่พบนี้จะได้รับการแก้ไขในซอฟต์แวร์อัพเดต iPhone OS 3.1 สำหรับ iPhone และ iPod Touch

ทั้งนี้ได้มีการพิสูจน์ข้อผิดพลาดดังกล่าวแล้ว โดยเว็บไซต์ Cult of Mac ซึ่งทำได้ง่ายมาก เพราะใครก็สามารถทดลองได้ เพียงแค่ใช้ฟังก์ชันค้นหา (Spotlight search function) ที่ใช้สืบค้นคอนเท็นต์ที่อยู่ในไอโฟนเท่านั้น ซึ่งฟังก์ชันเสิร์ชตัวใหม่ได้ถูกแนะนำในซอฟต์แวร์อัพเดต iPhone OS 3.0 ที่ออกในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยอีเมล์ที่ถูกลบทิ้งไปแล้วสามารถเรียกขึ้นมาดูได้ด้วยการใช้เสิร์ชที่ว่านี้ แต่ที่่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือ แม้อีเมล์จะถูกลบไปนานหลายเดือนแล้วก็ตาม ผู้ใช้ก็ยังสามารถสืบค้นด้วยฟังก์ชันเสิร์ช เพื่อเรียกขึ้นมาดูได้อยู่ดี สำหรับคลิปข้างล่างเป็นการสาธิตการทำงานของข้อผิดพลาดที่พบในไอโฟนโดย Matt Janssen ผู้อ่านใน Cult of Mac ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า อีเมล์ที่ลบไปแล้วยังอยู่ที่ใดที่หนึ่งในไอโฟน แม้อีเมล์ฉบับนั้นจะถูกลบออกจากเมล์เซิร์ฟเวอร์ไปแล้วก็ตาม

 

Chrome OS ขอ(ภาพ)"หลุด"ด้วยคน

 

สำหรับภาพชุดใหม่ของ Chrome OS ที่หลุดออกมานั้น แหล่งข่าวอ้างว่า มันเป็นหน้าตาอินเตอร์เฟซที่ถูกต้อง และชัดเจนกว่าเวอร์ชันที่มีการปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ในส่วนของภาพล่าสุดจะเป็นเวอร์ชันเบต้าที่ 0.1.15 ซึ่งมองเผินๆ อินเตอร์เฟซที่มีลักษณะเป็นบาร์อยู่ด้านบนของหน้าจอจะคล้ายกับของ Mac โดยที่ดีฟอลต์จะประกอบด้วยช่องค้นหากับ Google Apps

จากภาพที่หลุดออกมา กูรูในวงการมองว่า มันน่าจะเป็นของจริง (อีกแล้ว)  เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะปรับแต่งแพลตฟอร์มอื่นให้มีหน้าตาอย่างที่เห็นในรูป อย่างเช่น การไม่ปรากฎขอบรอบๆ บราวเซอร์ Chrome รวมถึง System tray ขนาดเล็กที่อยู่มุมล่างขวา ซึ่งแสดงแค่เวลา พลังงานในแบตเตอรี่ และแอพฯที่กำลังทำงาน

Chrome OS มีกำหนดการออกในช่วงครึ่งปีหลัง 2010 โดยจะทำงานบน"เน็ตบุ๊ก" และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โลว์เอ็นด์อื่นๆ ทั้งนี้กรอบของระบบการทำงานของโอเอสจะใช้บราวเซอร์ Chrome เป็นหลักทั้งในส่วนของการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชันต่างๆ บนเน็ต รวมถึงแอพพลิเคชันที่ทำงานแบบออฟไลน์ด้วย

AVG แจ้งผู้ใช้ "iTunes เป็นโทรจัน"

 

ข่าวที่ทำให้ผู้ใช้ไอจูนส์ถึงกับตกใจ เมื่อ AVG ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสยอดนิยม แจ้งผู้ใช้ว่า พบไวรัสในไฟล์ต่างๆ ของไอจูนส์ถึง 181 ตัว โดยโปรแกรมพยายามจะกีดกันไม่ให้ไฟล์ต่างๆ เพื่อไม่ให้ไอจูนส์ทำงานได้ สาเหตุเนื่องจากโปรแกรม AVG สงสัยว่า ไอจูนส์จะเป็นมัลแวร์ประเภทม้าโทรจันที่มีชื่อว่า small.bog

ประเด็นดังกล่าวได้มีการถกเถียงกันในโฟรัมของ Apple ซึ่งได้ข้อสรุปว่า AVG แจ้งข้อมูลผิดพลาด การติดตั้งและใช้งานไอจูนส์ไม่ได้มีความเสี่ยงแต่อย่างใด และมันไม่ใช่โทรจัน ยิ่งไปกว่านั้นการกีดกันกักขังไฟล์ต่างๆ ในไอจูนส์ของ AVG จะทำให้ไอจูนส์ไม่สามารถทำงานได้ สำหรับวิธีการแก้ไขผู้ใช้จะต้องเพิ่มข้อยกเว้นเข้าไปใน AVG เพื่อให้ไอจูนส์สามารถทำงานได้ต่อไป โดยขั้นตอนการแก้ไขมีดังนี้

1. เปิดโปรแกรม AVG

2. เข้าไปที่ Resident Shield เลือก Manage Exceptions ตามด้วย Add Path

3. เพิ่มพาธที่ให้ยกเว้น C:Program FilesiTunes และ C:Program FilesiPod

หลังจากปรับแต่งตามขั้นตอนข้างบนนี้ โปรแกรมแอนตี้ไวรัส AVG  จะเลิกสงสัยไอจูนส์ว่าเป็นโทรจัน เมื่อมีการอัพเดตในครั้งหน้า

ว้าว!!! เครื่องทำขนม"แพนเค้ก"อัตโนมัติ

 

ChefStack Pancake Maker เครืองทำแพนเค้กอัตโนมัติที่มีการทำงานน่ามหัศจรรย์มากๆ มันสามารถทำแพนเค้กได้ 200 แผ่นต่อชั่วโมง แถมยังมีขนาดของเครื่องไม่ใหญ่มากอีกต่างหาก การติดตั้งใช้งานแสนง่ายดาย เพียงแค่เสียบปลั๊กใส่ถุงแป้งที่ใช้แพนเค้กที่ผสมสำเร็จเข้าไป เลือกขนาดของแพนเค้กที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม จากนั้นเครื่องก็จะเริ่มหยอดแป้งผสมสำเร็จลงบนแผ่นอะลูมิเนียมร้อนเลื่อนได้ โดยแป้งผสมสำเร็จจะเคลื่อนผ่านเข้าไปยังลูกกลิ้ง เพื่อรีดให้กลายเป็นแผ่นวงกลมสวยงาม และเมื่อสุกก็จะปล่อยให้ไหลออกมาทีละแผ่น

ChefStack สามารถให้บริการแบบ self-service ดังนั้น มันจึงเหมาะสำหรับตั้งให้บริการในร้านสะดวกซื้อ โรงเรียน โรงพยาบาล และร้านกาแฟ โดยแพนเค้กที่ได้ยังไขมันต่ำมากอีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ใส่ใจสุขภาพ สามารถให้บริการได้ที่ความเร็วประมาณ 2 แผ่นต่อนาที สนนราคาของเครื่องอยู่ที่ 3,500 เหรียญฯ หรือประมาณ 126,000 บาท...โอ้ว!!! จอร์จ...มัน(แพง)เหลือเชื่อจริงๆ :p

 

รวยล้าน(เหรียญฯ)ด้วยเกมส์บนไอโฟน

 

หลังจากที่ Social Gaming Network (SGN) บริษัทผู้พัฒนาเกมส์ F.A.S.T. dogfight game ที่สามารถเล่นพร้อมกันได้หลายคน ได้เปิดวางจำหน่ายเกมส์ดังกล่าวบน iTunes ได้เพียงแค่ 6 สัปดาห์ก็สามารถทำเงินจากการดาวน์โหลดของผู้ใช้ได้สูงถึง 1 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 35 ล้านบาทไทยแล้ว แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า ความแรงของเกมส์ F.A.S.T จะไปได้นานแค่ไหน แต่เอ็นจิ้นของความสามารถในการทำให้เกมส์สามารถเล่นได้พร้อมกันหลายคนบนไอโฟน ทำให้ทางบริษัทสามารถพัฒนาเกมส์ในลักษณะนี้ออกมาได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันการขายไลเซนส์ของเทคโนโลยี ก็เป็นอีกแหล่งรายได้หนึ่งของทางบริษัท

อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ของการลงทุนบริษัทพัฒนาเกมส์บนไอโฟนในปัจจุบัน ซึ่งนักลงทุนได้ทุ่มเม็ดเงินลงไปในบริษัทต่างๆ ณ.วันนี้ประมาณ 100 ล้านเหรียญฯเข้าไปแล้ว นั่นหมายความว่า บริษัทพัฒนาเกมส์บนไอโฟนต่างๆ ต้องพยายามทำให้ประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกับ SGN นักลงทุนถึงจะคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เทลงไป เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันว่า มูลค่าตลาดแอพพลิเคชันเกมส์บนไอโฟนนั้นสูงถึง 1 พันล้านเหรียญฯ กันเลยทีเดียว คงต้องดูกันต่อไปว่า ความสำเร็จของ SGN จะเป็นต้นแบบให้หลายๆ บริษัท ตลอดจนนักพัฒนาที่มีความสามารถและไอเดียเด็ดๆ ได้มีโอกาสร่ำรวยจากไอโฟนแอพฯ กํนได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนทางเว็บไซต์ arip ขอเอาใจช่วยนักพัฒนาแอพฯไทยให้ได้มีโอกาสอย่างนี้บ้างนะครับ

 

Win 7 ให้เลือก Chrome หรือ Firefox?

 

น่าเสียดายที่การประกาศครั้งนี้จะมีผลบังคับเฉพาะในกลุ่มผู้ซื้อ Windows 7 ในยุโรปเท่า นั้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ประเมินว่า ผลจากการประกาศดังกล่าวจะทำให้ยอดผู้ใช้ Firefox และ Chrome เพิ่มจำนวนมหาศาล ทั้งนี้เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ประกาศว่า ทางบริษัทจะส่งหน้าจอที่เรียกว่า Ballot screen ซึ่งมีข้อความแจ้งผ่านหน้าเว็บไปยังผู้ใช้วินโดวส์ในยุโรปที่กำลังใช้ IE เป็นบราวเซอร์หลัก(default browser)ว่า ต้องการเปลี่ยนไปใช้บราวเซอร์ Chrome, Firefox, Safari หรือ Opera หรือไม่? โดยรายงานจากวอลสตรีทเจอนัลยังระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์อ้างว่า การทำในลักษณะดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องยากมาก

นอกจากไมโครซอฟท์ต้องทำสิ่งที่เอื้อประโยชน์ต่อคู่แข่งแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางบริษัทยังได้ประกาศผลการดำเนินการในไตรมาสที่สองว่า ยอดขายตกลงไป 17% ทำให้ตัวเลขอยู่ที่ 13.1 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องสูญเงินไปกว่า 2.39 พันล้านเหรียญฯ เนื่องจากกรณีผูกขาดทางการตลาดในยุโรป การส่งหน้าเว็บแจ้งเตือนการเลือกใช้บราวเซอร์ยังรวมถึงกลุ่มผู้ใช้พีซีที่กำลังรัน Windows XP และ Vista ตลอดจนผู้ที่กำลังซื้อพีซีเครื่องใหม่ที่มาพร้อมกับ Windows 7 ด้วย

หลักฐาน"นาโน"รุ่นที่ 5 มาพร้อมกล้องฯ

 

ตามธรรมเนียม ทุกครั้งที่แอปเปิ้ลออกเครื่องเล่นไอพอด (รวมถึงไอโฟนด้วย) มักจะมาพร้อมกับซองใส่ทั้งที่เป็นซิลิโคน และพลาสติก ซึ่งซองรุ่นใหม่ล่าสุดที่หลุดออกมาพบว่า ซองใส่ iPod touch 3G จะมีช่องตรงกลางสำหรับกล้องดิจิตอล ในขณะที่ซอง iPod Nano 5G ก็จะมาพร้อมกับช่องมุมล่างซ้าย เพื่อให้กล้องดิจิตอลโผล่ออกมาได้

นอกจากนี้ ซอง iPod Nano 5G ยังทำให้ทราบว่า ส่วนแสดงผลของมันใหญ่ขึ้นกว่าเดิมตามที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ โดยดูเหมือนจะใหญ่ขึ้นจาก 1.33:1 เป็น 1.5:1 ซึ่งจะทำให้ขนาดของเฟรมใหญ่มากพอที่จะสังเกตภาพที่ถ่าย ในขณะเดียวกัน Click Wheel ยังมีขนาดเล็กลงด้วย โดยจะเลื่อนตำแหน่งลงมาชิดด้านล่างของตัวเครื่องมากขึ้น หากพิจารณาจากหลักฐานล่าสุดดูจะค่อนข้างแน่นหนา น่าเชื่อถือได้พอสมควรนะครับ

ตะลึง!!! รัน Windows 95 บน iPhone

 

สำหรับขั้นตอนการแฮค ทีม iSoft เปิดเผยว่า พวกเขาใช้ภาพจากหน้าจอการทำงานของระบบปฏิบัติการ Windows 95 และ Bochs emulator ซอฟต์แวร์จำลองการทำงาน เพื่อทำให้ระบบปฏิบัติการเก่าแก่ตัวนี้ สามารถเข้าไปลอยนวลอยู่ใน iPhone โดยจะตอบรับการใช้งานผ่านหน้าจอระบบสัมผัสของ iPhone ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพการทำงานของมันอาจจะอึดๆ ไปสักนิด แต่ก็ต้องขอปรบมือให้กับความพยายามของทีมงานที่ทำให้เราได้เห็นภาพแปลกๆ อย่างนี้

 

 

Microsoft Office 2010 เวอร์ชันฟรี?

 

Office Web เป็นชื่อเรียกบริการแอพพลิเคชันออนไลน์ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft Office 2010 ที่กำลังจะวางตลาดในช่วงกลางปีหน้า "มันจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ในการที่จะมีโอกาสได้ลองสัมผัสกับแอพพลิเคชัน เหล่านี้" Chis Capossela รองประธานอาวุโสฝ่ายหน่วยธุรกิจของไมโครซอฟท์ กล่าว

 

microsoft-office-web-2

สำหรับเวอร์ชันฟรีที่ให้บริการผ่านออนไลน์จะประกอบด้วยแอพพลิเคชันอย่างเช่น Word, Excel, PowerPoint และ OneNote โดยทั้งหมดจะให้บริการผ่านทางเว็บไซต์ Windows Live ภายในบราวเซอร์ของผู้ใช้ ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของไมโครซอฟท์เป็นการป้องกันคู่แข่งอย่างกูเกิ้ล รวมถึง Lotus Symphony ของ IBM ที่เป็น โอเพ่นซอร์ส และ StarOffice ของ Sun

 

microsoft-office-web-3

Capossela ไม่เชื่อว่า Office Web จะกินตลาดกันเอง (cannibalize) กับ Office ที่ทำงานบนเดสก์ทอป ซึ่งยอดขายตกลงไป 30% เมื่อช่วงไตรมาสทีผ่านมา "เราไม่ได้ทำให้เว็บแอพฯซ้ำซ้อนกับไคลเอ็นต์แอพฯบนเดสก์ทอป" Capossela กล่าว "เราพยายามทำให้เว็บแอพฯสามารถทำงานได้ดีที่สุดในสภาพแวดล้อมของมัน" ตัวอย่างเช่น PowerPoint บน Office Web จะไม่มีเครื่องมือแก้ไขวิดีโอเช่นเดียวกับเวอร์ชันบนเดสก์ทอป "ถ้าคุณใช้ Office บนพีซี คุณก็จะได้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ" Capossela กล่าว ในขณะเดียวกัน เว็บแอพฯจะมีคุณสมบัติการทำงานบางอย่างที่จะไม่พบในเวอร์ชันเดสก์ทอปด้วยเช่นกัน อย่างเช่น ความสามารถในการฝังแท็กเข้าไปในเอกสารต่างๆ และโพสต์คอนเท็นต์ในเอกสารขึ้นบล็อก

เนื่องจากไมโครซอฟท์มีลูกค้าที่ใช้ออฟฟิศทั่วโลกประมาณ 90 ล้านคน ในขณะที่มีผู้ใช้ Windows Live อีกประมาณ 400 ล้านคน "นั่นหมายความว่า เราจะมีผู้ใช้เกือบห้าร้อยล้านคนที่จะได้ใช้ Office Web ทันทีที่มันเปิดตัว" Capossela กล่าว